มีใครสอบบ่อยกว่าเราอีกไหม?
สำหรับบทความนี้ ไม่มีการปรุงแต่งคะแนนมาใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการเอาเฉพาะคะแนนที่ได้สูงที่สุดมาโชว์บนโลกออนไลน์อย่างเดียว แต่จะลากสาวไส้คะแนนการสอบ PTE ของตัวเองให้ทุกคนในประเทศและนอกประเทศได้ดูกันว่าคะแนนมันมีการพัฒนา(และไม่พัฒนา)อย่างไรบ้าง myPTEjourneyก็ขอเอารูปมาเปรียบเทียบคะแนนให้ทุกคนได้ดูกันไปเลย
คะแนนจะเรียงตั้งแต่การสอบครั้งที่ 1 ไปจนถึงครั้งล่าสุดคือครั้งที่ 4 (มีใครให้มากกว่าเราอีกไหม?) พร้อมนะ? ไปชมคะแนนของเรากันค่ะ
คะแนนจากการสอบครั้งที่ 1 (วันและเวลาสอบ : ศุกร์ที่ 4 ต.ค. 2019 เวลา 8.00น.)
เลือกสอบช่วงเช้าตั้งแต่ 8 โมง สำหรับบางคนอาจจะชอบสอบช่วงเช้าเพราะสมองปลอดโปร่ง แต่เราไม่ได้อยากช่วงเช้าขนาดนี้เท่าไหร่ เพราะหมายความว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ต้องขึ้นรถไฟฟ้าจากสายชานเมืองไม่เกิน 6.15น. และต้องเผื่อเวลากินข้าวด้วย
คะแนนครั้งที่ 1 จึงเป็นไปตามที่เห็นดังรูปเลย คะแนน Reading สูงที่สุด รองลงมาเป็น Speaking แต่คะแนน Overall 61 ยังไม่เป็นที่พอใจ แบบว่าฉันได้น้อยขนาดนี้เลยหรอ คือจริงๆเราหวังว่าเราจะได้เยอะกว่านี้น่ะนะ ถ้าเทียบกัยการสอบ IELTS ครั้งแรกของเราที่ได้ 7 เลย แต่นี่มันน้อยกว่าสอบ IELTS ครั้งแรกอีก! คือช่วงทำข้อสอบมันมึนๆงงๆ ออกจากห้องสอบมานี่มึนหนักกว่าเดิม ที่ได้คะแนนน้อยสันนิษฐานว่าเป็นเพราะในส่วน Repeat sentences ทำได้ไม่ดี และ Write from dictation ทำไม่ทัน จำได้ลางๆว่าทำไม่ทันไปอยู่ประมาณ 2 จาก 3-4 ข้อ
ก็ถือว่าเป็นการสอบครั้งแรกเสียเงินลองสนามไปประมาณ 5600 กว่าบาทก็แล้วกันนะ
คะแนนจากการสอบครั้งที่ 2 (วันและเวลาสอบ : ศุกร์ที่ 15 พ.ย. 2019 เวลา 14.25น.)
เปรี้ยวนะ…สอบครั้งแรกผ่านไปแค่เดือนนิดๆ คะแนนสอบออกมาก็ตัดสินใจสอบครั้งที่สอง จำได้ว่าน้องพนักงานที่อยู่สำนักงานคุมสอบ PTE โทรมาตามกลัวว่าเราจะไปไม่ทันเพราะว่าเค้ากำลังจะมีการซ่อมลิฟท์ อาจทำให้ลิฟท์ใช้ไม่ได้ (ขอบคุณน้องมาก) แต่จริงๆแล้วคืออยู่ที่ 7-11 ใกล้กับตึกสอบ กำลังเลือกซื้อช็อคโกแลตกินเข้าปากเพิ่มพลังในการสอบเสียหน่อย
คะแนนโดยรวมดีกว่าครั้งแรก (นิดหน่อย Overall มากกว่าเดิม 8 คะแนน ภูมิใจจริงๆ) ก็ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ไปทำพลาดอีกแถวๆเดิมคือ Repeat sentences ที่พยายามฟังแล้วฟังอีกก็เก็บได้ไม่หมด ส่วน Write from dictation เวลาหมดไปเสียก่อน ทำไม่ทันไป 1 ข้อถ้วน แต่มันผิดหวังตรงที่เราติวสอบ PTE กับติวเตอร์แล้วนะ เสียเงินติวด้วย เสียเงินค่าโอนด้วย เพราะติวเตอร์ตัวไม่ได้อยู่เมืองไทย แล้วคะแนนขึ้นมาแค่ 8 คะแนน
คะแนนจากการสอบครั้งที่ 3.1 (วันและเวลาสอบ : เสาร์ที่ 21 ธ.ค. 2019 เวลา 8.00น.)
จริงๆแล้วครั้งที่ 3 ไม่ได้จองวันนี้ แต่เพราะสนามสอบ Cancel ก็เลยต้องขอคืนเงินแล้วเลือกวันใหม่ ครั้งนี้ไม่ต้องลางานมาสอบ จึงขอเขียนเป็นการสอบ PTE ครั้งที่ 3.1 แทน
พอเห็นคะแนนแล้วแทบจะร้องไห้ (จริงๆน้ำตาตกในไปแล้วล่ะ) ใจมันเบาหวิวๆบอกไม่ถูก เพราะไม่เป็นไปตามที่หวังไว้! หนำซ้ำคะแนนยังน้อยกว่าการสอบครั้งที่2 ลงไปหน่อยนึง ถึงจะแค่ 1 คะแนนก็เถอะ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง ณ เวลานั้น เพราะการสอบครั้งหลังควรจะคะแนนมากกว่าครั้งแรกมิใช่หรือ?!? ที่เหลือก็ทำตามเทคนิคที่ติวเตอร์ใหม่มาเป๊ะๆ
พอตั้งสติได้ ก็มานั่งวิเคราะห์ว่าเพราะอะไรหนอ นอกจากคะแนนยังไม่เพิ่งแล้วยังจะลดอีก เท่าที่คิดได้คือ Repeat sentences ยังมีตะกุกตะกักอยู่ Write from dictation ขาดไป 1 ข้อถ้วน อีกแล้ว! ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้เราคิดว่า Write from dictation มีแค่ 3 ข้อ ทั้งที่จริงแล้วมันมีประมาณ 3-4 ข้อ ทุกคนต้องดูดีๆนะคะว่าข้อที่เราทำอยู่มันข้อสุดท้ายแล้วหรือยัง อย่าพลาดแบบเราเลยนะ
สุดท้ายแล้วเราลองมานั่งเปรียบเทียบว่าเราพอจะดัน IELTS พาร์ท Writing ให้ได้ 7 ได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะฉะนั้น จงมุ่งไปทาง PTE ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องทำให้ได้ หลังมันจะชิดกำแพงอยู่แล้ว หาวิธีการพิชิตข้อสอบ PTE ด้วยตัวเอง เทคนิคของเราเอง ไม่ต้องหาคนมาติวแล้ว หาเองอ่านเอาเอง และทิ้งเทคนิคที่ติวเตอร์เคยให้มาในส่วนของพาร์ท Speaking ไม่เอามันแล้วเทคนิคที่ติวเตอร์เคยให้ ลองพัฒนาสูตรใหม่ด้วยตัวเอง แล้วผลก็ปรากฏในการสอบครั้งที่ 4…
หาเอง อ่านเอง ศึกษาเอง ลองพัฒนาสูตรใหม่ด้วยตัวเอง แล้วผลก็ปรากฏในการสอบครั้งที่ 4
myPTEjourney
คะแนนจากการสอบครั้งที่ 4 (วันและเวลาสอบ : เสาร์ที่ 25 ม.ค. 2020 เวลา 11.00น.)
ครั้งที่สี่เลือกสอบเวลา 11 โมง ถือเป็นเวลาดีเพราะตื่นไม่เช้าจนเกินไป สมองได้พักผ่อนเต็มที่
ครั้งนี้เป็นครั้งที่รอผลคะแนนนานที่สุด ใช้เวลารอถึงสามวัน(ปกติสอบเสร็จวันรุ่งขึ้นก็ได้คะแนนเลย) พอคะแนนออกมาปุ๊บแทบจะกรี๊ดลั่นบ้าน! คะแนนรวมสูงที่สุดตั้งแต่สอบมา อีกทั้งคะแนนการพูดยังได้เต็มอีกด้วย! ไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆ (แต่ก็หวังไว้ลึกๆว่าแต่ละพาร์ทจะได้คะแนน 79 ขึ้นไป )
ในที่สุดมันก็ทำให้เราเหตุผลเห็นผลของกรรมว่าหากเราตั้งใจฝึกฝนพยายามกับมันจริงๆสุดท้าย ‘อยู่เฉยๆมันจะได้มันก็ได้’
.
.
.
พูดเล่นนะ
.
.
.
อยู่เฉยๆไม่มีทางได้หากคุณไม่ได้ศึกษาข้อสอบตัวนี้มาก่อน ไม่เตรียมพร้อม …
ในการสอบครั้งที่ 4 นี้ เราทิ้งเทคนิคการสอบของติวเตอร์ที่เรามองว่ามันไม่ค่อยเมคเซ้นส์ เหลือไว้แต่พวกที่เราพิจารณาแล้วว่ามันมีประโยชน์ในการทำคะแนนของเรา นอกจากนี้ ประสบการณ์จากการสอบในแต่ละครั้งที่ถึงแม้จะเฟล แต่เราก็เอาประสบการณ์ที่เฟลๆเนี่ยแหล่ะมาลองผิดลองถูกในการสอบครั้งที่ 4 รวมไปถึงความใจกล้าที่จะลองพิสูจน์การสอบ PTE Academic ด้วยสมมุติฐานที่มีการกล่าวอ้างบนโลกออนไลน์ด้วยตนเอง บวกด้วยความมุ่งมั่นแบบหัวชนฝาว่า ‘ฉันต้องทำให้ได้นะ’ จึงทำให้การสอบครั้งที่ 4 นี้ได้คะแนนดีที่สุดแต่ใช้ทรัพย์ในการลงทุนต่อการสอบครั้งนี้น้อยที่สุด ครั้งนี้เราพึ่งแหล่งความรู้ทางอินเตอร์เน็ตและพลังใจในความไม่ย่อท้อของตัวเอง และความสำเร็จก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า
ขอบคุณตัวเองมากค่ะ