ทริคการย่อยข้อมูลใน Describe Image

Describe image ใน PTE Academic เป็นแนวข้อสอบที่เราค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ เรารู้สึกคล้ายๆกับว่ากำลังเล่นเกมอยู่ ทำนองว่าเปิดภาพมาปุ๊บ! คุณมีเวลา 25 วินาทีที่จะอธิบายรูปภาพที่คุณเห็น! ลักษณะคล้ายๆเกมโชว์แบบเวทีทองยังไงยังงั้น .ฮา. แต่ถึง myPTEjourney จะชอบ task นี้มากแค่ไหนก็ตาม สำหรับหลายๆคนแล้ว Describe image เป็นหนึ่งใน tasks ของ PTE Academic ที่มักจะสร้างความกังวลใจให้อยู่ไม่น้อย

เราเคยเกริ่นไปใน Describe Image อธิบายสิ่งที่เห็นว่ามีคล้ายคลึงกับพาร์ท Writing task 1 ของ IELTS เพราะข้อสอบจะมีรูปแบบกราฟหรือรูปโปรเซสต่างๆมาให้เราอธิบาย แต่สิ่งที่ต่างกันระหว่าง IELTS กับPTE ก็คือใน IELTS นั้นจะเป็นการเขียนอธิบาย แต่สำหรับ PTE Academic แล้วเราจะต้องพูดเพื่ออธิบายสาระสำคัญจากรูปที่เราเห็น ซึ่งตรงนี้แหล่ะ เป็นหนึ่งในปัญหาที่มักทำให้ผู้เข้าสอบเป็นกังวล เพราะ…

• ไม่รู้ว่าโจทย์ที่ได้จะเป็นกราฟรูปแบบไหน เพราะใน PTE  Academic มีกราฟหลากหลายรูปแบบมากกว่าใน IELTS เยอะมากๆ
• มีระยะเวลาเตรียมตัวก่อนที่จะต้องพูดจริงเพียงแค่ 25 วินาที แต่ข้อมูลในโทย์ที่ให้มาเยอะเหลือเกิน ทำให้ไม่รู้ว่าสาระสำคัญอยู่ตรงจุดไหน
• กังวลเรื่องการพูดโดยใช้แกรมม่าที่ถูกต้อง
• หรือบางครั้งเราก็แทบจะไม่เข้าใจสิ่งที่โจทย์ให้มาเลย!

อย่าลืมนะคะว่าระหว่างการเห็นโจทย์แล้วต้องเขียนสรุป กับเห็นโจทย์แล้วต้องพูดเทคนิคในการทำมันต่างกัน

myPTEjourney ไปเจอเทคนิคดีๆจาก E2Language ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาออนไลน์ที่ถือได้ว่ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโลกของคนที่จะเตรียมตัวสอบแพลตฟอร์มภาษาอังกฤษต่างๆ เขาได้ทำคลิปวิดีโออธิบายวิธีการจับจุดข้อมูลส่วนสำคัญๆจากโจทย์ใน Describe image  โดยการนำชุดข้อมูลเด่นๆมาเรียบเรียงเป็นเรื่องราว และยังมาพร้อมกับเทคนิคการเล่นประโยคให้ดูดีมีระดับอีกด้วย

โดยคำตอบในพาร์ท Describe image ควรจะต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนดังนี้

Introduce
Describe
Conclude

และนี่คือโจทย์แรกที่ทาง E2Language นำมาเป็นตัวอย่าง

ในกราฟทุกประเภท Processทุกรูปแบบ แผนที่ทุกรูป หรือไม่ว่าจะเป็นโจทย์แบบใดก็ตาม ใน Describe image จะมี Title(หัวเรื่อง) บอกผู้เข้าสอบเสมอว่าโจทย์ที่ให้ไปนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่างในตัวอย่างนี้ Title ก็คือ Music album sales in the United States, by format และเราจะนำ Title ตรงนี้ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบกันค่ะ

ต่อจากนั้นจะเห็นว่าใน Line graph นี้มีการแบ่งประเภทของการขายออกเป็น 1) CD เส้นสีเขียว 2) Digital เส้นสีม่วง และ 3) LP เส้นสีดำ 

ส่วนต่อไปที่เราจะนำข้อมูลมาใช้ ก็คือ X-Axis ที่บอกช่วงปีของยอดขาย และแน่นอนว่าเมื่อมี X-Axis เราก็ต้องพิจารณา Y-Axis ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Y-Axis จากรูปก็คือหน่วยยอดของการขายตั้งแต่ 0m ไปจนถึง 250m เอาจริงๆโจทย์ข้อนี้ค่อนข้างที่จะใจดีเลยค่ะ เพราะมีการบอกตัวเลขยอดขายให้เราเห็นอย่างชัดเจนในช่วงปีสุดท้ายของข้อมูลด้วย เพราะปกติเราไม่ค่อยเจอโจทย์ใจกว้างแบบนี้ ประมาณว่าต้องใช้ความสามารถในกะข้อมูลจากสายเอาเองซะมากกว่า

สีเขียวเป็นชุดข้อมูลของยอดขาย CD ที่เราได้เห็นชัดเลยว่ามียอดขายที่สูงที่สุดในปี 2011 แล้วค่อยๆลดลงมาอย่างต่อเนื่องแบบน่าใจหายจนถึงปี 2021 ซึ่งเราสามารถอธิบายเทรนด์การขาย CD ได้ว่า There was a steady decline in CD sales over the years (Noun+Adjective)… หรือ CD sales declined steadily over the years… (Verb+Adverb)

ตรงนี้เห็นอะไรมั้ยคะ? รูปแบบการอธิบายเทรนด์ของกราฟสามารถพูดได้มากกว่าหนึ่งแบบ ขึ้นอยู่กับผู้เข้าสอบว่าจะจัดวาง Noun, adjective, verb หรือ adverb ไว้ในรูปแบบไหนก็ได้ตามแต่ใจของคุณ ซึ่งตรงนี้เรามองว่าวิธีการให้คำตอบนั้นเหมือนกับพาร์ท Writing ใน IETLS มากๆเลยตรงที่เราสามารถแสดงทักษะการใช้รูปแบบประโยคที่หลากหลายให้ผู้ตรวจข้อสอบได้เห็น

ส่วนเส้นสีม่วงซึ่งเป็นยอดการขายในรูปแบบ Digital สามารถพูดได้ว่า Sales of digital rose slightly and then fell steadily… (Verb+Adverb) ส่วนใครอยากจะพูดในรูปแบบของ Noun+adjective ก็ได้เช่นกันค่ะ

ส่วนเส้นสีดำที่เป็นยอดขาดของ LP มียอดขายน้อยมาตั้งแต่ปี 2011 ค่อยๆกระเตื้องทีละนิดในแต่ละปี ในปี 2021 กลับมียอดขาดที่เชิดหัวขึ้น โดยยอดการขายของ LP  เราก็สามารถอธิบายลักษณะของกราฟได้ง่ายๆว่า …Remained relatively stable before a late surge…

ทีนี้มาดู Model answer ของ E2Lanaguge กันค่ะ โดนในคำตอบของเขาก็พร้อมไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1 อธิบายว่าสิ่งที่โจทก์ให้มานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ข้อมูลตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ (Introduction)  2 อธิบายถึงเทรนของข้อมูล (Describe) 3 จบด้วยข้อสรุป (Conclude)

---

ในโจทย์ข้อต่อมาที่ E2Language เอาตัวอย่างจะเป็นเรื่องของ Map(แผนที่) เราจะมาวิเคราะห์รูปแบบของข้อมูลกันว่าเราควรอธิบายออกมาในรูปแบบไหนเพื่อให้คำตอบนั้นมันเคลียร์ที่สุด และสามารถอธิบายถึงลักษณะเด่นต่างๆของชุดข้อมูลได้

สิ่งแรกเลยอย่างที่บอกกล่าวไว้แต่แรกเลยว่า ในทุกๆโจทย์จะมีสิ่งที่ให้มาอยู่เสมอก็คือ Title หรือหัวเรื่อง ซึ่งในโจทย์ข้อนี้เป็นเรื่อง Average CO₂ emissions per capita in selected regions in 2019 (in tons)*

ด้วยความที่โจทย์ในข้อนี้เป็นรูปภาพแผนที่ ส่วนตัวเราว่ามันมองง่ายดีค่ะ เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะข้อมูลจะถูกนำมาใส่ในรูปแบบ Infogrpahic ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นข้อมูลเด่นๆได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที จากภาพ คุณจะเห็นประเทศที่ปล่อย CO₂ มากที่สุดนั่นคือ North America อยู่ที่ 20.8 ส่วนประเทศที่ปล่อย CO₂น้อยที่สุดก็คือ  Sub-Saharan African ปล่อยก๊าซออกมาที่ 1.6 ตันเท่านั้นเอง

เพียงแค่นี้เองค่ะเราก็ได้ข้อมูลสำคัญที่เราจะเอามาตอบแล้ว

ทริคเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่อยากให้ภาษาของเราดูสละสลวยขึ้นก็คือการนำ ประโยคที่เป็น Active voice หรือ Passive voice มาใช้กับการอธิบายกับเราค่ะ ยกตัวอย่างกับประเทศที่ปล่อยก๊าซตัวนี้ออกมามากที่สุด เราสามารถพูดได้ว่า  North Americans emitted the most CO2 (Active voice) หรือ The most CO2 was emitted by North Americans (Passive voice) แบบไหนก็ได้ แล้วแต่อารมณ์จะพาไปของผู้เข้าสอบเลยค่ะ

ส่วนตัวเราเข้าใจดีว่าเวลาต้องพูดอธิบายอะไรซักอย่างบางครั้งเราก็ไม่ได้พูดถูกหมด 100% อาจจะมีพูดผิดไปบ้าง อาจจะมีส่วนที่แกรมม่าผิดไปบ้าง แต่เราอยากจะบอกว่าการให้คะแนนใน Describe Image จะมีช่องว่างเผื่อคุณพูดผิด หากอธิบายง่ายๆก็คือ ถึงแม้ว่าคุณจะมีส่วนที่พูดไม่ถูกต้องอยู่บ้าง แต่หลักๆแล้วใน Describe image ทาง PTE Academic จะเน้นการให้คะแนนในส่วนของ Clearly and Fluently ซึ่งตรงนี้น่าทำให้คุณๆทั้งหลายที่จะไปสอบสบายไปหนึ่งเปราะล่ะเนอะ 🙂

ทีนี้เรามาดูคำตอบที่เป็น Model answer กันค่ะ ลองดูส่วนประโยคที่เป็นสีเขียวจะแทนด้วย Active voice ส่วนสีม่วงจะเป็นรูปประโยคแบบ Passive voice และแน่นอนว่าใน Model answer ไม่ได้มีเพียงแค่การเลือกใช้รูปประโยคแบบต่างๆ เพราะอย่าลืมว่าคำตอบนั้นควรจะประกอบไปด้วยการเกริ่นนำ (Introduction) อธิบาย เทรนด์ของข้อมูล (Describe)  และสรุป (Conclude) ค่ะ

---

การทำข้อสอบใน Describe image อาศัยความเร็ว –  ความเร็วในการอ่านข้อมูล ความเร็วในการเรียบเรียงประโยคที่จะพูดในหัว และความเร็วในการตัดสินใจ อย่าลืมนะคะว่าคุณมีเวลาเพียงแค่ 25 วินาทีในการวิเคราะห์โจทย์

ฉะนั้นแล้วพยายามหาจุดเด่น จุดสำคัญในสิ่งที่เราเห็นและอธิบายเป็นเรื่องออกมา อะไรที่เป็นข้อมูลย่อยหรือเป็นจุดเล็กน้อยที่ไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายค่ะ เว้นเสียแต่ว่าคุณยังพอเห็นว่ายังมีเวลาเหลือในการเพิ่มรายละเอียดส่วนอื่นเข้าไป ตรงนี้อาจจะใช้ข้อมูลที่เป็นรองอันดับสองมาใช้ก็ได้

สำหรับใครที่อยากดูแบบ VDO มีภาพเคลื่อนไหว พร้อมฝึกทักษะการฟัง เข้าไปดูได้เลยด้านล่างนี้ค่ะ