จากข้อมูลของ SBS Australia กล่าวไว้ว่าประเทศออสเตรเลียนั้นขึ้นชื่อเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ เนื่องด้วยมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่ไม่สามารถหาได้จากภูมิภาคอื่นที่ใดในโลก เช่นสัตว์ประจำบ้านอย่างจิงโจ้ ที่ไม่จำเป็นต้องไปสวนสัตว์ก็ได้เจอ หรือเจ้าโคอาล่าขี้เซาที่เห็นพวกมันทีไรก็น่าเอ็นดูทุกที เจ้าตัวพอสซั่มที่ชอบแอบอยู่ใต้หลังคา รวมไปถึงสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอันตรายอย่างจระเข้ แมงมุม และอสรพิษไร้ขาอันเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นประจำประเทศออสเตรเลีย และวันนี้ myPTEjourney อยากจะขอพักเรื่องการแชร์ทริคและประสบการณ์การสอบ PTE เปลี่ยนมาเป็นการแบ่งปันประสบการณ์การเจองูพิษอย่าง Red-bellied black snake หรือ ‘งูเห่าดำท้องแดง’ กันดีกว่า … บรึ๋ยส์
เรื่องของเรื่องนั้นมีอยู่ว่า หลังจากกินข้าวเที่ยงแล้วพูดคุยสัพเพเหระกับเพื่อนๆที่เจอใน Common Kitchen หรือครัวกลาง อธิบายก่อนว่าตัวเราเนี่ยอยู่หอพักของมหาลัยฯ ซึ่งหอพักเนี่ยก็ไม่ได้สูงเป็นตึกเหมือนอย่างประเทศไทย แต่เหมือนเป็นห้องเล็กๆที่ตั้งอยู่ติดๆกัน แล้วแบ่งออกเป็นบล็อก ก็จะมีบล็อค A B C D ไล่ไปเรื่อยๆ ส่วนครัวกลางเนี่ยก็จะอยู่ตรงกลาง (ตามชื่อ) เพื่อความสะดวกแก่นักศึกษาทุกคน (หากงงก็ดูแผนที่เอาข้างๆนะจ๊ะ) โดยครัวกลางก็จะเป็นครัวแบบในรายการมาสเตอร์เชฟเลย มีทุกอย่างสำหรับการทำครัว มีล็อคเกอร์ของนักศึกษาของใครของมันไว้เก็บอุปกรณ์ทำครัว หากใครอยากได้ประสบการณ์อยู่มหาลัยฯ การอยู่หอพักนักศึกษาก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกตัวนึงเลยค่ะ
กลับมาที่เรื่องของเราต่อก็คือหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วอะไรแล้วก็จะเดินกลับห้อง ซึ่งหอของเรามันอยู่บล็อก A ไอ้เราก็เดินไปคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเพลินๆไป สักพักเดียวก็ได้ยินเสียง…เสียงเหมือนใบไม้แห้งที่ถูกลมพัดแล้วครูดไปกับพื้น (พอจะนึกออกไหมเอ่ย?) พอได้ยินเสียงนี้ปุ๊บก็คิดว่าก็คงเป็นใบไม้แห้งที่มันปลิวอยู่ตามพื้นนั่นแหละ แต่เสียงนี้ทำเราขนแขนนี้ลุกพรึ่บ คือมันมีความรู้สึกแปลกๆ ก้าวทีก็ได้ยินเสียงที แล้วอะไรก็ไม่รู้โดนใจให้ก้มลงมองที่พื้น ทันใดนั้นสายตาก็เห็นสิ่งที่ไม่นึกว่าจะได้เจอ มันก็คือ ‘งู’ นั่นเอง ที่คิดว่าไม่น่าจะได้เจอก็เพราะมันเป็นกลางวันแสกๆ แล้วมันก็ไหลเลื้อยซ้ายขวาไปตามทางเดินโล่งๆ อีกอย่างตัวก็ไม่ใช่เล็กๆเพราะมันยาวกว่าแขนเราอีก มีพิษหรือเปล่าก็ไม่รู้ ลักษณะสีด้านบนออกน้ำตาลเข้มแทบจะน้ำตาลไหม้เกือบดำและใต้ท้องมีสีแดง แล้วปกติเราก็เห็นแต่งูหลามงูเหลือมที่อยู่ในกระจกในสวนสัตว์ อย่างแย่ที่สุดก็งูเขียวตัวเล็กๆที่น้องแมวที่บ้านคาบมาโชว์ให้ดู แต่นี่มันงูอะไรก็ไม่รู้! แล้วมันก็แอบไปอยู่ใต้ช่องใต้ประตูของห้องนักศึกษาคนนึงด้วย แล้วน้องคนนั้นก็ดันถอดรองเท้าไว้ใต้ช่องประตูนั้นอีก คือ…เอาเป็นว่าเขาคงไม่ได้เช็คแน่ๆเวลาจะใส่รองเท้า สภาพนั้นไม่อาจจะคิดเลย
ด้วยความที่จิตวิญญาณเต็มไปด้วยพลังนักศึกษาที่ดี (หรือกลัวก็ไม่รู้?!?) เราก็ตามงูนั้นไปอยู่ห่างๆ จริงๆแล้วก็ไม่อยากตามหรอก แต่เพราะว่าหอเรามันอยู่ทางที่งูนั้นมันเลื้อยไปพอดี แล้วมันก็เลี้ยวขวาหายปุ๊บเข้าไปในกล่องดักหนู ซึ่งขณะมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย แต่มันมีความสามารถในการทำตัวเล็กตัวน้อยหลบเข้าไปอยู่ในนั้นได้ ไอ้เราก็เลยเข้าไปแอบอยู่ในห้อง Common Room ซึ่งจะเป็นห้องที่มีตู้เย็น อ่างล้างจาน มีทีวี มีโซฟาให้นั่งสำหรับนักศึกษาแต่ละบล็อค หรือเรียกง่ายๆว่าห้องไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ จากนั้นก็กดโทรศัพท์หา Security Guard ทันทีแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตอนนี้เราก็รออยู่ในห้อง Common Room
รอประมาณสัก 10 นาทีได้เจ้าหน้าที่ธุรการของหอพักก็เดินมาหาเรา ถามว่ามันคืองูอะไร ก็บอกเขาไปตรงๆว่าไม่รู้ (ก็ในชีวิตเห็นงูแต่ในสวนสัตว์ งูหลาม งูเหลือมยังแยกไม่ออกเลย) แต่บอกลักษณะสีและขนาดเท่าที่เห็น และเขาก็ถามว่าตอนนี้มันเลื้อยไปตรงไหน ซึ่งขอบอกตรงๆว่าตอนเขาถามว่าเลื้อยเนี่ยเราได้เรียนศัพท์ใหม่เลยนะ ไม่เคยคิดว่าจะได้เรียนคำนี้เลยคือคำว่าเลื้อย (slither) 555 เราก็บอกว่ามันหายเข้าไปในกล่องดักหนู เขาก็ถามว่าแน่ใจหรอกล่องมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ไอ้เราบอกมั่นใจเกิน 100% เพราะเห็นกับตาจับตาดูมันไว้อยู่ แล้วเรื่องของเรื่องคือไอ้กล่องนั้นน่ะมันก็ตั้งอยู่ข้างหลังนอกห้องระหว่างห้องเรากับไปห้องข้างๆ เลยบอกกับตัวเองว่าจะคลาดสายตาไม่ได้ แล้วไอ้กล่องดักหนูเนี่ยก็ตั้งอยู่ในสุ่มทุมพุ่มไม้ซะด้วย
เขาก็โอเค รับทราบ และเดี๋ยวจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาจัดการ ไอ้เราก็งกๆเงิ่นๆว่าเข้าไปในห้องได้แล้วใช่ไหม ไม่ใช่เดี๋ยวมันมีรูแล้วงูมุดเข้ามาโผล่ในห้องเดี๋ยวจะยุ่งเอา เขาก็บอกว่าเข้าไปรอในห้องก่อนก็ได้ พอเข้ามาในห้องปุ๊บตั้งใจจะฟังเล็กเชอร์เกี่ยวกับแคลคูลัส แต่ใจมันไม่อยู่นั่นแล้วไง คือ…ใจนึงก็พยายามบังคับให้ตัวเองฟังสิ่งที่อาจารย์สอน อีกใจนึงก็งูมันจะเข้ามาในโถส้วมไหมนะ หรือมันจะมุดเข้ารูเข้าท่อแอร์มาได้ (คิดไปนั่น จินตนาการล้ำเลิศ)…
ไม่ถึง 30 นาทีก็เห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนทางฝั่งที่มีหน้าต่างอยู่นอกห้อง เห็นผู้ชายใส่ชุดสีเขียวแขนยาวผลุบๆโผล่ๆพร้อมอุปกรณ์คล้ายๆเหมือนที่จับงูบ้านเราอยู่แถวพุ่มไม้นอกห้องเราเลย ตอนนี้เล็คชงเล็คเชอร์ไม่ฟังมันแล้ว ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่เหตุการณ์นอกห้อง เห็นเจ้าหน้าที่หอ 4-5 คนยืนลุ้นให้กำลังใจ แล้วมีพนักงานรักษาความปลอดภัย 2-3 คนอยู่ด้วย เห็นหมองูปล้ำอยู่อย่างนั้นประมาณ 10-15 นาที ก็ดูเหมือนกับว่าการแสดงนั้นได้จบลง เราก็เดินออกจากห้องไปถาม Joe ซึ่งเป็นหนึ่งในพนักงานธุรการ ว่าจับได้แล้วใช่ไหม เขาก็บอกว่าเรียบร้อยไม่ต้องห่วง เราก็สงสัยว่าไอ้งูนี่มันคืออะไรเพราะบอกตรงๆว่าไม่เคยเห็น เขาบอกว่าน่าจะเป็น Red-bellied black snake หรือ ‘งูเห่าดำท้องแดง’ ที่น่าจะยังโตไม่เต็มที่ (นี่ขนาดยังโตไม่เต็มที่นะ)
จากเว็บไซต์ https://australian.museum/.com มีข้อมูลเกี่ยวกับงูเห่าดำท้องแดงว่าเป็นงูที่พบได้มากแถบชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย เป็นงูที่ค่อนข้างขี้อาย จะทำการกัดอย่างรุนแรงในกรณีที่ถูกกระทำอย่างรุนแรงเท่านั้น ซึ่งหากเราพยายามที่จะเข้าใกล้เนี่ย งูชนิดนี้ก็จะพยายามหนีหรือพยายามอยู่ให้ห่างเรา (เป็นยังไงฟังแล้วพอสบายใจไหมเอ่ย?) แต่ถ้าหากถูกกัดล่ะ? ข้อมูลจากเว็บไซต์บอกว่าหากถูกกัด พิษของงูจะส่งผลต่อการต้านการแข็งตัวของเลือดและมีพิษต่อกล้ามเนื้อเป็นหลัก ตัวอย่างของอาการจากพิษงูชนิดนี้ได้แก่ เลือดออกและ/หรือบวมบริเวณที่ถูกกัด คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เหงื่อออก กล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณที่ถูกกัด
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้มาคุยกับเพื่อนชาวออสเตรเลีย เจ้าตัวบอกว่าดีนะที่เป็น Red-bellied black snake เพราะว่าถ้าหากถูกกัดยังมีเวลาไปโรงพยาบาลได้ภายใน 1 ชั่วโมง แต่หากว่าถ้าเป็น Brown snake คนโดนกัดจะเหลือเวลาประมาณ 30 นาที หากไปโรงพยาบาลไม่ทันก็รู้นะหมายถึงอะไร… แหม่ ฟังแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย…
นี่ก็เป็นประสบการณ์อีกแบบในการใช้ชีวิตของการเป็นนักเรียนมหาลัยฯ ในแถบ Regional area ที่ประเทศออสเตรเลียค่ะ