ชื่อหนังสือภาษาอังกฤษ : Elon Musk
ชื่อภาษาไทย : –
เขียน : Ashlee Vance
แปล : –
สำนักพิมพ์ : Ebury Publishing
จำนวนหน้า : 416 หน้า
ISBN : 9780753555644
ความคิดเห็น
เขาว่ากันว่า Musk เป็นคนเรื่องมาก เข้าถึงยาก เข้าสังคมไม่เป็น เจ้ากี้เจ้าการ จอมบงการ ทำงานไม่เห็นหัวใคร ฯลฯ สารพัดสารเพข้อเสียที่เราได้ยินจากสื่อเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ ไหนจะพวก Podcast ที่เอานิสัยข้อเสียของเขามาถกกันในหมู่สาธารณชน แต่ไฉนเขาคนนี้ถึงเป็นเจ้าของที่มีทรัพย์สินสุทธิติดอันดับโลกได้
หนังสือเปิดมาด้วยเรื่องที่ว่าผู้เขียนที่กว่าจะได้สัมภาษณ์กับ Musk นั้นต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง ทั้งที่หลายคนอยากจะมาสัมภาษณ์ Musk แบบตัวต่อตัว แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจไป เหลือแต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ที่ยังยืนหนึ่งจอมตื้อ ตื้ออย่างเดียวยังไม่พอ แต่บอก Musk ว่าเขาขอเขียนหนังสืออกมาโดยที่ Musk จะต้องไม่ยุ่งอะไรกับหนังสือของเขาเลย เมื่อคน 2 คนมาเจอกัน ลูกบ้าของแต่ละคนจึงทำให้หนังสือเล่มนี้คลอดออกมา กว่าที่เราจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้นั้นยากเย็นแค่ไหน
เนื้อหาในหนังสือกล่าวถึงชีวิตวัยเด็กของ Musk ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่านอกจากมันสมองและความทะเยอทะยานที่เขามีแล้ว ตระกูลของ Musk ก็มีเงินมีทองอยู่แล้วมาตั้งแต่รุ่นตา เอาเป็นว่ามีบ้านที่เปิดเป็นสตูดิโอสอนเต้นตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่แคนาดาแล้วกัน แล้วคุณตาของ Musk เองก็เคยลงเล่นการเมือง นอกจากนี้ยังชอบเดินทางผจญภัยไปในที่ต่างๆ ซึ่งมีเวลาอย่างเดียวคงจะทำไม่ได้ แต่ต้องมีเงินด้วยถึงจะใช้ชีวิตแบบนี้ได้ เพราะฉะนั้นสำหรับเรา เรามองว่าครอบครัวของ Musk เองก็มีต้นทุนทางสังคมที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว


หนังสือเล่าชีวประวัติของ Musk ตั้งแต่เข้าเรียน ธุรกิจตัวแรก ธุรกิจตัวที่สอง มาจนถึงปัจจุบัน ควบคู่ไปกับชีวิตส่วนตัวความสัมพันธ์ขั้นละเอียดว่ารู้จักกับแฟนแต่คนได้อย่างไร (หนังสือเล่มนี้ออกมาก่อนที่ Musk จะคบกับนักร้องสาวชาวแคนาดา ‘กริมส์’ หรือ ‘เอมเบอร์ เฮิท’ เพราะฉะนั้นจะไม่มีสองสาวที่กล่าวถึงอยู่ในหนังสือเล่มนี้) กว่าที่ Musk จะมาถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะล้มลุกคลุกคลานผ่านการถูกรังแกที่โรงเรียนเมื่อครั้งวัยเยาว์ ไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้งปั่นหัวด้วยคำพูด แต่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ยังส่งผลให้จมูกของเขามีปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ ชีวิตของมหาเศรษฐีคนนี้ยังผ่านประสบการณ์เกือบล้มละลายมาแบบเฉียดฉิว ถึงขนาดว่านั่งโต๊ะเจรจาเผื่อว่าบริษัทไปไม่รอดกับ Larry Page แห่ง Google และไหนจะคดีฟ้องร้องกันเรื่องลิขสิทธิ์อีกหลายเคสต่อหลายเคส
บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเยอะพอควร ด้วยความที่ชีวิตของ Musk ได้เอามาแต่แผ่ตั้งแต่รุ่นตา ยาย จึงมีตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทั้งในด้านชีวิตจริงและด้านธุรกิจเข้ามานับไม่ถ้วน ไม่เพียงแต่ระดับนายทุนที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจของเขาแต่ยังนับรวมไปถึงคนที่ทำงานกับเขาระดับเล็ก ระดับผู้บริหาร ไปจนถึงผู้คนที่ไม่พอใจกับธุรกิจของเขาด้วย บางทีก็ต้องเปิดกลับไปมาเพราะว่าลืมไปแล้วว่ามายังไง คนที่ยืนหยัดไปกับ Musk ก็มีไม่อยู่กี่คนหรอก ซึ่งหนึ่งในพวกเขาบอกว่าที่ยังอยู่ด้วยเนี่ยเขาไม่สนใจว่า Musk จะเป็นยังไง เพราะ Musk เนี่ยแหล่ะที่จะพาเขาไปถึงฝันได้!
ผู้เขียนก็เป็นพวกกัดไม่ปล่อยของจริงตามที่เข้าบอกไว้ในบทแรก เขาได้ตามสัมภาษณ์กับบุคคลที่เคยร่วมงานกับ Muskไปถึงครอบครัว เพื่อนสมัยเรียน ความสัมพันธ์กับแฟนแต่ละคน สืบค้นเรื่องวุฒิการศึกษาของ Musk ไปจนถึงวิธีการที่วิศวกรผู้ร่ำรวยคนนี้ หาตัวคนปล่อยข่าวเกี่ยวด้านลบเกี่ยวกับบริษัทโดยตามสื่อจาก Log in เครื่องปริ้นท์แล้วเทียบขนาดและรูปแบบตัวอักษรกันเลย เออ…เอากะเขาสิ่ เนี่ยแหล่ะต่างคนต่างก็กัดไม่ปล่อย
Musk told Riley, a virgin, that he wanted to show her his rockets
ELON MUSK New updated edition
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่เราสั่งจาก bookdepository แน่นอนว่าเนื้อหาภายในเป็นภาษาอังกฤษล้วน เราจึงใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะอ่านจบ เพราะเนื้อหาบางส่วนก็ต้องไปเปิดหาความหมายเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนหรือการทำธุรกิจอะไรสักอย่างในอเมริกาหรือแคนาดาที่ไม่ได้เหมือนประเทศไทย แน่นนอนว่ามีความเกี่ยวเนื่องในด้านกฎหมายด้วย นอกจากเนื้อหาด้านการพาณิชย์แล้ว หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างหนักในศัพท์ด้านวิศวกรรม ซึ่งตรงนี้เป็นโชคดีของเราที่ทำงานและได้เรียนมาในสายนี้ เพื่อนของเราบางคนบอกว่าพยายามอ่านแล้วอ่านไม่ไหว เพราะศัพท์ด้านเทคนิคเยอะเหลือเกิน
หนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้ลึกเกี่ยวกับประวัติของ Musk ในมุมที่สื่อไหนก็ไม่เคยเล่าและเคยได้ยินที่ไหน บางเว็บไซต์เขียนสรุปไว้ให้เป็นแต่ละช่วงชีวิตของ Musk ว่าเคยทำอะไรมาบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าเล่มนี้จะทำให้เรารู้ลึกเกี่ยวกับตัวผู้ชายคนนี้อีกเยอะ