จำไปเลย…โพยแนะนำตัวเอง (Personal Introduction)

ถึงแม้ว่าข้อสอบแต่ละข้อแต่ละพาร์ทจะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย แต่ส่วนที่เราต้องเจออยู่ทุกครั้งและสามารถพูดแบบเดิมได้ทุกครั้งที่มาสอบ PTE คือ Personal Introduction แต่หากใครสงสัยว่ามันคืออะไรคุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ต้องแนะนำตัวเองก่อนทำข้อสอบ (Personal Introduction) ซึ่งในส่วนของ Personal Introduction ด่านนี้จะไม่มีการเก็บคะแนนใดๆทั้งสิ้น แต่หากผู้เข้าสอบต้องการส่งคะแนนไปยังสถาบันที่จะเข้าเรียนนั้นๆ หรือมีความประสงค์จะให้ทาง Pearson ส่งคะแนนการสอบภาษาอังกฤษไปยังองค์กรที่คุณต้องการยื่นคะแนนโดยตรง สิ่งที่คุณพูดใน Personal Introduction ก็จะถูกส่งไปที่สถาบันนั้นด้วยเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของผู้สมัครอีกทาง ข้อดีของการแนะนำตัวเองคือการ warm-up ให้เราคุ้นชินกับการพูด คุ้นเคยกับหูฟังครอบหูและมีก้านไมโครโฟนอยู่ที่ปาก อีกทั้งเรายังสามารถสร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่คัดเลือกนักศึกษาของสถาบันนั้นได้อีกด้วย ระยะเวลาทั้งหมดที่เราสามารถพูดเกี่ยวกับตัวเองอยู่ที่ 30 วินาที โดยมีเวลาเตรียมตัวก่อนไมโครโฟนจะเริ่มให้เราพูดแนะนำตัวเอง 25 วินาที

แต่ทำไมเราต้องมานึกการแนะนำตัวเองแบบกะทันหันอย่างนี้ด้วยล่ะ?

เราสามารถเตรียมบทพูดเพื่อแนะนำตัวเองมาจากที่บ้านได้เลย ใครอยากจะใส่คำพูดสวยๆ คำศัพท์เจ๋งๆ รูปแบบประโยคที่ซับซ้อนอันบ่งบอกถึงความสามารถในภาษาอังกฤษ ผู้เข้าสอบสามารถร่างแพทเทิร์นการแนะนำตัวเองที่แสดงถึงความเป็นเราไว้ก่อนตั้งแต่เราอยู่ที่บ้านได้เลย ส่วนใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับส่วนนี้เยอะ myPTEjourney ก็ได้ร่างแพทเทิร์นการแนะนำตัวเองตามแต่ละจุดประสงค์ต่างๆของผู้เข้าสอบ PTE มาไว้ให้ในบทความนี้ด้วย (หมายเหตุ : ชื่อ สถาบันการศึกษา สถานที่ทำงาน ที่ใช้ในบทความคือชื่อสมมุติ)


1) สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่จะไปเรียนต่อหลังเรียนจบ

ตัวอย่างแรกที่เราทำไว้สำหรับคนที่จะไปเรียนต่อแบบยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน สิ่งที่ใช้แนะนำตัวเป็นหลักคือชื่อ-นามสกุล อาศัยอยู่ที่ไหน จบจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอะไร และสาขาไหน สิ่งที่เราเพิ่มมาให้เพื่อเติมเต็มบทความคือความต้องการหรือความสนใจในการเรียนต่ออันเกี่ยวเนื่องกันกับด้านที่เราจะไปศึกษาต่อ ซึ่งตรงส่วนนี้ใครอาจจะมีเหตุผลเดียวก็ได้นะคะ หากใครใส่ไปเหตุผลเดียวก็จะใช้เวลาไปประมาณ 23 วินาที แต่หากใครใส่ไป 2 เหตุผลก็ตะตกอยู่ที่ประมาณ 27-28 วินาทีค่ะ (นับเวลาจากบทความที่เรายกตัวอย่าง และเหตุผลที่เราใส่ไปค่อนข้างจะยาวอยู่เหมือนกัน)

Good morning. My name is ________________. I live in ________, Thailand. I graduated from ________ University with a Bachelor’s degree in __________, major in ___________.
I am interested ___________________________________, and ____________________ ______________________________________. I am willing to study Master’s degree in ___________ at ___________ University.


<ตัวอย่าง>
Good morning. My name is Yada Pattarawong. I live in Bangkok, Thailand. I graduated from Sathorn University with a Bachelor’s degree in Engineering, major in Mechatronics Engineering. I am interested in the relationship between human and artificial intelligence, and using robotics automation technologies in production. I am willing to study Master’s degree in Robotics Engineering at Monroe University.

2) สำหรับคนที่จะไปเรียนต่อที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว

2.1) สำหรับใครที่จะเข้าสอบ PTE เพื่อที่จะไปเรียนต่อโดยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว และยังทำงานอยู่(ยังไม่ลาออกจากงาน) เราได้เตรียมรูปแบบการแนะนำตัวตามด้านล่างนี้

Good morning. My name is ________________. I live in ________, Thailand. I graduated 	from ________ University with a Bachelor’s degree in __________, major in ___________.
 After that, I currently work as _________________at ____________________for ____ years. Then, I decided to pursue a Master’s degree at Monroe University to expand my knowledge.

<ตัวอย่าง>
Good morning. My name is Yada Pattarawong. I live in Bangkok, Thailand. I graduated from Sathorn University with a Bachelor’s degree in Engineering, major in Mechatronics Engineering. I currently work as a production engineer at iRobot for 3 years. Then, I decided to pursue a Master’s degree at Monroe University to expand my knowledge.

2.2) สำหรับผู้เข้าสอบที่มีประสบการณ์การทำงานมา แต่ได้ลาออกจากงานเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม หรือด้วยเหตุผลส่วนตัวใดๆ ก่อนศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

Good morning. My name is ________________. I live in ________, Thailand. I graduated from ________ University with a Bachelor’s degree in __________, major in ___________.
After I graduated, I worked as _________________at ________________for ____ years. Then, I decided to pursue a Master’s degree at Monroe University to expand my knowledge.

<ตัวอย่าง>
Good morning. My name is Yada Pattarawong. I live in Bangkok, Thailand. I graduated from Sathorn University with a Bachelor’s degree in Engineering, major in Mechatronics Engineering. After I graduated, I worked as a production engineer at iRobot for 3 years. Then, I decided to pursue a Master’s degree at Monroe University to expand my knowledge.

3) สำหรับผู้เข้าสอบ PTE ที่ต้องการวัดระดับการสอบภาษาอังกฤษ

สำหรับคนที่มาสอบเพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษ หรือมาสอบเพื่อลองข้อสอบ ไม่ก็มาสอบเพื่อเก็บคะแนนเอาไว้ไม่รีบร้อน หัวข้อนี้ myPTEjourney มักจะใช้นำมาพูดบ่อยๆเมื่อมาถึงส่วน Personal introduction ค่ะ อ่านแบบธรรมชาติและเป็นตัวของตัวเองจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณเกือบ 25 นาที

Good morning. My name is ________________. I live in ________, Thailand. I graduated from ________ University with a Bachelor’s degree in __________, major in ___________.
After I graduated, I currently work as _________________at ________________for ____ years. In my leisure time, I enjoy reading books, watching TV and cooking. I am taking (หรือ I am going to take) the PTE examination to evaluate my English skills.


<ตัวอย่าง>
Good morning. My name is Yada Pattarawong. I live in Bangkok, Thailand. I graduated from Sathorn University with a Bachelor’s degree in Engineering, major in Mechatronics 	Engineering. I currently work as a production engineer at iRobot for 3 years. In my leisure 	time, I enjoy reading books, watching TV and cooking. I am taking (หรือ I am going to take) 	the PTE examination to 	evaluate my English skills. 

ท่านใดที่ได้เข้ามาอ่านบล็อกของเราก็สามารถลดระยะเวลาในการเตรียมตัวในช่วงการแนะนำตัวได้เลย เราไม่หวงที่ผู้เข้าสอบ PTE จะเอารูปแบบการแนะนำตัวไปปรับใช้เพื่อให้เข้ากับตัวคุณเอง myPTEjourneyอยากเป็นตัวช่วยอีกทางที่จะทำให้คุณรักษาเวลาเอาไปทำอย่างให้เกิดประโยชน์มากกว่า คุณอาจจะอยากเอาเวลาไปนั่งท่องศัพท์ ฝึกการอ่านออกเสียง หรือฝึกการเขียนให้ทันเวลาก็เป็นได้ นอกจากนี้บทพูดแต่ละอันmyPTEjourneyก็ได้ลองนั่งพูดดูแล้ว อยู่ในกรอบ 30 วินาทีที่ไม่ต้องพูดอย่างเร่งรีบและพยายามมากจนเกินไป โดยจากการที่ตัวเองผ่านการสอบมาทั้งหมด เราพยายามพูดให้ได้อยู่ที่ประมาณ 25-28 วินาที พอจะเหลือเวลาที่ไม่มากจนเกินไปให้นั่งเขินเล่น และมักจะใช้รูปประโยค Personal Introduction แบบเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจะได้ไม่ต้องใช้เวลาจำส่วนนี้มากเกินไป รวมไปถึงหากเกินเหตุสุดวิสัยลืมบทพูดขึ้นมา สมองเราก็จะ recall สิ่งที่เราเคยพูดซ้ำๆได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ใช่ว่าmyPTEjourneyจะพูดเหมือนเดิมเป๊ะตลอดนะคะ บางครั้งเราก็มีพูดสลับไปมาบ้างแต่ก็จะพูดตามกรอบที่เราเตรียมไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ออกนอกทะเลจนหาชายฝั่งไม่เจอค่ะ

หากมีใครอยากให้ myPTEjourney ช่วยดู ช่วยเกลา หรืออยากให้แนะนำ Personal Introduction ที่เหมาะกับคุณ สามารถบอกได้เลยนะคะ เรายินดีที่จะสนับสนุนให้สอบ PTE ผ่านไปด้วยกันค่ะ