The Face Men Thailand 2 ภาษาอังกฤษนี้มีดราม่า

2022-08-02 The Face Men Thailand 2 ภาษาอังกฤษนี้มีดราม่า

เขาว่ากันว่าหากอยากเก่งภาษาอังกฤษ ให้ฝึกฟังเยอะๆแล้วจะเริ่มซึมซับเข้าสมองเอง จากนั้นสกิลในการสปีคอิงลิชก็จะตามมา แต่จะได้เริ่มพูดเมื่อไหร่ล่ะ? ในเมื่อแค่ฝึกฟังยังเป็นเรื่องยาก ลองฟังข่าวภาษาอังกฤษจาก BBC ก็แล้ว ลองหาหัวข้อสนุกๆใน TED Talks ก็แล้ว ลองดูหนัง Subtitle ก็แล้ว ยังงั๊ยยยยังไงมันก็ไม่ได้สักที แล้วจะไปสอบ PTE แบบมั่นใจได้ยังไงหนอ

งั้นเรามาเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆก่อนดีไหม?
.
.
.

ถ้าซอนย่าไม่ระวัง เกดอาจจะทำให้ชีวิตของทีมซอนย่าให้ลำบากก็ได้นะคะ
การที่จะก้าวเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงได้ รูปร่าง หน้าตา เป็นอะไรที่สำคัญมาก
Yes Yes … No…? Ok, next
I’ll make it to the top 15 and I’m gonna beat everyone.
ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่รายการ The Face Men Thailand 2 (พร้อมด้วยสำเนียงภาษาไทยแบบเหน่อๆที่ฟังทีไรก็ขัดใจทุกทีของอองตวน .ฮา.)

The Face Men Thailand 2

ในซีซั่นนี้มีกฎกติกาที่เปลี่ยนไปจาก The Face Thailand จากซีซั่นแรกๆ อยู่พอสมควร แต่เรื่องดราม่ายังให้เสพย์อยู่เป็นเนืองนิจ เรียงรายเสิร์ฟผู้ชมด้วยความเผ็ดร้อนของหนุ่มๆที่มาพร้อมกับกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นดุ้นๆ ทว่านี่ไม่ใช่ประเด็นที่ myPTEjourney จะยกมาถกกันในบทความนี้ แต่เป็นเรื่องของโอกาสในการฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษผ่านรายการ The Face Men Thailand 2 ต่างหาก เพราะหลังเราได้ดูซีซั่นนี้จบ เราเชื่อว่ารายการนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้กับใครบางคนหรือหลายคนๆอาจจะรู้สึกสนุกไปกับการเรียนภาษาอังกฤษ 

ว่าด้วยเรื่องของทฤษฎีที่ว่ามนุษย์ทุกคนมีความขี้เผือกอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ขอให้มีดราม่าเถอะ เราจะพยายามหามาเสพย์ในทันที เรื่องของการเมืองเอย เรื่องทฤษฎีหลุมดำเอย เรื่องชีวประวัติของจิตรกรระดับโลก ฯลฯ ขอให้มีเรื่อง ‘ดราม่า’ สักนิดสักหน่อย ความน่าเบื่อจะกลายเป็นเรื่องหฤหรรษ์ในทันที นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ The Face Thailand ถึงได้เป็นที่พูดถึงจนคลอดออกมาแล้วหลายซีซั่น

และนอกจากสคริปที่เขียนให้ดูโอเวอร์กว่าความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ The Face Men Thailand 2 โดดเด่นกว่าซีซั่นอื่นๆในสายตาของเราไม่ใช่เพราะกฎกติกาแปลกๆ บทพูดที่จิกกันไปมา หรือผู้เข้าแข่งขันในครั้งนี้ครบเครื่องกว่าซีซั่นก่อนๆเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะผู้ชมจะได้ฝึกภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องทรมานไปในตัว เพราะในซีซั่น 2 นี้เปรียบเสมือนหนัง Subtitle ที่ชวนให้คนดูอย่างเราสนใจติดตามดราม่าร้อนๆไปจนจบ

The Face Men Thailand 2

ในครั้งนี้พี่ลูกเกดได้ขยับฐานะจากเมนเทอร์ไปเป็นมาสเตอร์ เปรียบเสมือนครูใหญ่ของบ้าน เมนเทอร์ฝีมือดีอย่าง หมู อัสวะ, ซอนย่า คูลลิ่ง และโทนี่ รากแก่น ต่างก็มีลูกทีมที่เมื่อมารวมตัวกันแล้วก็ทำให้แต่ละทีมมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยไม่สนว่าผู้เข้าแข่งขันจะมาจากที่ไหนและพูดภาษาอะไร

จากนี้ต่อไปการฝึกฟังภาษาอังกฤษของคุณได้เริ่มขึ้นแล้ว..

ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบรายการ ทีมของซอนย่าจะมีการพูดคุยสื่อสารระหว่างกันเป็นภาษาอังกฤษอยู่เสมอ เพราะทีมของเมนเทอร์ซอนย่าได้ชื่อว่าเป็น International Team! ซึ่งสำหรับซอนย่าแล้วการพูดภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรเลย สำนงสำเนียงอย่างเป๊ะ และฟังง่ายมากๆ อีกทั้งคุณยังได้ฝึกการฟังภาษาอังกฤษในสำเนียงอื่นๆอีกด้วย ก็แน่หล่ะ…ก็เขาชื่อมีชื่อทีมว่า International Team นิ่ 

The Face Men Thailand 2 ทีมซอนย่า

ทั้งสำเนียงภาษาอังกฤษแบบต้นฉบับจากอเมริกา สำเนียงจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวียนอย่างสวีเดน หรือสำเนียงภาษาอังกฤษจากแถบเพื่อนบ้านเราอย่างสิงคโปร์ และคุณจะได้ยินสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษของไทยแท้ๆที่ไม่มีลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวจากทีมนี้ด้วย ขอบอกเลยว่าทีมซอนย่าคือทีมรวมนานาประเทศของจริง

หรือหากมีคน(แอบ)บ่นว่าผู้เข้าแข่งขันที่ยกตัวอย่างมาแต่ละคนต่างก็เป็นลูกครึ่งจากประเทศที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษกันอยู่บ่อยๆ…งั้นเรามาต่อด้วยทีมของโทนี่กันค่ะ

ทีมโทนี่ ที่เปลี่ยนชื่อให้กับทีมของตัวเองใหม่ว่า Monsters Team เพราะเป็นทีมที่ลูกทีมแต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองสุดๆ แต่ละคนมีสไตล์เป็นของตัวเองไปคนละทาง แต่เมื่ออยู่รวมกันแล้วบวกด้วยเมนเทอร์สุดติสต์อย่างโทนี่เข้าไป ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างคาดไม่ถึง และถึงแม้จะไม่โกอินเตอร์เท่าทีมของซอนย่า แต่ทีม Monsters ก็ต้องมีการพูดภาษาอังกฤษกันอยู่แทบทุกครั้งเพื่อสื่อสารให้ลูกทีมทุกคนเข้าใจ พร้อมที่จะเอาชนะแต่ละแคมเปญให้ได้ 

The Face Men Thailand 2 ทีมโทนี่

เรียวตะ หนึ่งในลูกทีมสุดฮาของทีม Monsters ของเฮียโทนี่ รากแก่น ที่ทำให้เราทุกคนเห็นว่าถึงภาษาอังกฤษจะไม่ใช่ภาษาแม่ อีกทั้งทักษะทางภาษา(ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย)ไม่ได้แข็งแรงมากนัก แต่เขาก็สามารถสื่อสารกับเมนเทอร์และเพื่อนร่วมทีมได้ จนสามารถผ่านเข้ารอบท้ายๆของ The Face Men ซีซั่นนี้ได้เลย

ส่วนทีมของหมู อาซาว่า  ถึงแม้ว่าไม่ได้มีความหลากหลายทางด้านภาษาเหมือนทีมอื่น แต่ลูกทีมก็เต็มไปด้วยคุณภาพคับแก้ว ทั้งคนที่มีพรสวรรค์และพรแสวง ทำให้การก้าวไปสู่ดวงดาวนั้นไม่ได้ยากเลย หากคุณสังเกตทีมนี้ให้ดีคุณจะพบว่าลูกทีมที่มีพรแสวงนั้นอาศัยความพยายามเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมาย แล้วเราสามารถใช้มันเป็นตัวอย่างในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ และแน่นอนเพื่อที่จะสอบ PTE ให้ได้คะแนนสูงๆตามที่เราหวังไว้

The Face Men Thailand 2 ทีมหมู

แม้แต่ตอนที่เมนเทอร์จะต้องส่งคนเข้ารอบ Final ตัวของหมูเองนั้นยังคิดแล้วคิดอีกว่าจะส่งคนที่เกิดมาเพียบพร้อมองค์ประกอบครบครันเพื่อที่จะไปเป็น The Face Thailand ในซีซั่น นี้ หรือจะส่งคนที่มีความมุมานะพยายามเพื่อไปถึงดวงดาว สุดท้ายแล้วความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร 

ไม่ใช่แค่ผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แต่เมนเทอร์รับเชิญอย่าง พลอย เฌอมาลย์ ที่เข้าเรียนที่โรงเรียนไทยตลอด และจบจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ก็ใช้ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อที่จะสื่อสารกับเหล่าสมาชิกทีม International โดยส่วนตัวเราคิดว่า ถึงแม้พลอยอาจจะไม่สามารถสื่อสารได้ 100% ตามที่ใจอยากจะพูด แต่หากใครได้ดูแคมเปญ Huewai ก็ต้องยอมรับว่าพลอยก็พยายามเต็มที่เพื่อทีมแล้วจริงๆ ซึ่งอุปสรรคในแคมเปญนี้กลับไม่ใช่การพูดภาษาอังกฤษที่สวยหรู กลายเป็นการพูดภาษาไทยที่ทำให้ผู้เข้าแข่งขันสายนานาชาติกังวลใจแทน

ภาษาอังกฤษเป๊ะไม่เป๊ะไม่ใช่ปัญหา

myPTEjourney

และหากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ เราอยากจะบอกจุดสังเกตอย่างหนึ่งให้คุณเห็นว่า ผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้ มีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอย่างเดียว คือ ลูอิสจากทีมซอนย่า แต่ทุกคนในทีม International และทีม Monsters ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบ Native ก็สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง ไม่มีใครมากังวลเรื่องสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษ เราพูดเก่งพูดเร็วหรือไม่ หรือกลัวว่าจะฟังไม่ทัน เพราะ ณ เวลานั้นทุกคนต้องพยายามที่จะเข้าใจโจทย์ เพื่อสร้างสิ่งที่ตรงประเด็น ไม่เข้าใจให้ถาม เสนอไอเดียอะไรก็ได้ที่จะพาให้ทีมชนะ สื่อความรู้สึกของตัวเองออกมา

แล้วคุณล่ะ มีอะไรให้ต้องกังวล?

ถึงแม้ว่าสำเนียงเรายังไม่ใกล้เคียงแบบบริติชหรืออเมริกัน ได้แต่สำเนียงไทยแท้พ่อแม่ให้มา ขอแค่คุณกล้าเริ่มต้นที่จะเรียนรู้ กล้าที่จะพูด กล้าที่จะสื่อสาร พยายามทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้อีกฝั่งเข้าใจ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง พยายาม ฝึกฝน และทบทวน เพราะผลลัพธ์ของการเรียนภาษาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในชั่วข้ามคืน เรียนภาษาอังกฤษกับปาฏิหาริย์ไม่ใช่ของคู่กัน…

ลองเริ่มต้นจากอะไรง่ายๆ จากอะไรที่เรารู้สึกสนุกไปกับมัน บางคนอาจจะเจอจุดเริ่มต้นจากการฝึกฟังภาษาอังกฤษ แต่หากบางคนยังไม่เจอ คุณอาจจะเริ่มต้นกับ The Face Men Thailand season 2 ก่อนก็ได้ และไม่ต้องกลัวจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะสำเนียงของแต่ละคนนั้นฟังง่ายมาก หลายคนก็พูดช้า ใช้ศัพท์ง่ายๆ แต่หากฟังไม่ทันจริงๆก็สามารถอ่านคำบรรยายภาษาไทยด้านล่างได้ทันที 
.
.
.

ยินดีต้อนรับเข้าสู่การฝึกภาษาอังกฤษที่มีดราม่าสนุกๆมาให้เสพย์อย่าง The Face Men Thailand!


รูปจาก
https://positioningmag.com/1192209
https://www.sanook.com/movie/81569/gallery/608177/
https://www.sanook.com/movie/81569/gallery/608125/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *