PTE ทำไมเธอเปลี่ยนไป?

อะไรที่เราคุ้นชินอยู่แล้ว ถ้าหากวันนึ่งเขาเปลี่ยนไปเราจะรู้สึกอย่างไรหนอ แล้วถ้าเป็นเรื่องของข้อสอบที่เปลี่ยนไปล่ะ! มันจะเป็นเรื่องดีกับเราไหม ข้อสอบ PET รูปแบบเดิมก็ผ่านมาจนชินมืออยู่แล้ว มันจะถูกปรับให้ง่ายขึ้นหรือยากขึ้นกว่าเดิมกันแน่

เรื่องของเรื่องที่ทำให้เกิดบทความนี้ เกิดจากการที่ myPTEjourney ได้รับอีเมลจาก E2language ซึ่งเราเป็นสมาชิกกับเขามาตั้งแต่นมนานแล้ว เป็นสมาชิกเขามาตั้งแต่ตอนสอบ IELTS เลยค่ะ ท้ายสุดได้มาย้ายเปลี่ยนจากคอร์ส IELTS มาลงเป็น PTE Academic แทน หากผู้อ่านท่านใดสงสัยว่าทำไมเรามาตกลงปลงใจเปลี่ยนเป็น PTE  คุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ เป็นยังไงมายังไงถึงมาสอบ PTE? หากคุณอ่านจบแล้ว ไม่แน่อาจจะอยากเปลี่ยนมาสอบ PTE เหมือนกับเราก็เป็นได้นะ .ฮา.

อีเมลจาก E2Language จั่วหัวมาเลยว่า ‘Change is coming’ สำหรับ PTE Academic คือพอเราเห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่แล้วก็ออกใจจะเต้นรัวๆไม่ได้ เลยต้องขอลองคลิ๊กเข้าไปดูในเว็บทางการของ Pearson หน่อยแหล่ะว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

จากรูปหมายความว่าใครก็ตามที่จะสอบ PTE Academic จะต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงในข้อสอบแน่นอน โดย PTE รูปแบบใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป จากนั้นเราก็ไปที่ Find out more เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างด้วยอารมณ์ตื่นเต้นนิดๆ

สิ่งที่จะเปลี่ยนและไม่เปลี่ยนสำหรับ PTE Academic

คือ…รายละเอียดมันมีอยู่แค่นี้จริงๆ ถ้าบอกตามตรงเราก็แอบผิดหวังนะ ทำไมมีบอกแค่นี้เองล่ะ น่าจะบอกให้เยอะกว่านี้หน่อย อย่างตรงที่บอกว่าจะมีจำนวนคำถามน้อยลงกว่าเดิม จากทั้งหมด 70-82 ข้อ ลดลงเหลือ 52-64 ข้อ เรายากให้เว็บไซต์มีรายละเอียดมากกว่านี้ว่าใน Task ไหนที่จำนวนคำถามลดลง แต่เท่าที่เราดูโดยรวมเรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดีขึ้นมาเลยนะคะ เพราะการมีคำถามน้อยลงทำให้เวลาโดยรวมทั้งหมดลดลงไปโดยปริยาย จากที่ต้องใช้เวลาทั้งหมด 3 ชม. ก็จะเหลือแค่ 2 ชม. แต่อีกใจนึงก็เสียดายที่ช่วงเวลาพักเบรกไม่มีอีกแล้ว คือปกติ myPTEjourney จะใช้เวลาตรงนี้ออกไปเดินเล่น ยืดเส้นยืดสายและพักสายตาจากข้อสอบสักพัก แล้วค่อยกลับเข้าไปทำข้อสอบต่อในส่วน Listening  ช่วงๆเวลาสั้นๆนี้ช่วยให้เราพักสมองได้ดีเลยทีเดียวหล่ะ

มาดูส่วนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง ทาง Pearson บอกมาตรงๆเลยว่าระดับความยากของข้อสอบและประเภทของข้อสอบไม่เปลี่ยนไปนะจ๊ะ หากใครคิดว่าง่ายมันยังคงง่ายแบบเดิม ส่วนใครที่คิดว่าการสอบ PTE เป็นเรื่องยาก มันก็ยังคงยากแบบเดิม เพราะฉะนั้นเรามาลองมอง PTE ว่ามันง่ายดีกว่าเนอะ และนอกจากนี้คะแนนสอบของ PTE Academic ก็ยังคงได้รับการรับรองจากหลากหลานสถาบันเช่นเดิม ส่วนในข้อสุดท้าย Pearson ยังยืนยันว่าข้อกำหนดคะแนนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หมายถึงหากทางมหาวิทยาลัยบอกว่าคะแนนการสอบเข้าการเรียนวิศวะอยู่ที่ขั้นต่ำ Overall 68 ก็ยังเป็นอยู่แบบเดิม ไม่มีการปรับคะแนนการยื่น Admission ใดๆทั้งสิ้นค่ะ

เหตุผลหลักๆที่ทาง Pearson มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการสอบ PTE Academic เพราะว่าจากผลงานวิจัยของ Pearson พบว่าการที่มีจำนวนคำถามน้อยลงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ PTE Academic ได้ โดยที่ไม่มีผลต่อคะแนนสอบหรือคุณภาพใดๆเลย ทาง Pearson เขาว่ามาอย่างนี้

Shorter test, less stress – Pearson

Pearson

เอาจริงๆ หลังจากนั่งคิดดูเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงข้อสอบ PTE Academic ที่ได้กล่าวมาถือว่าเป็นประโยชน์และผลดีของผู้เข้าสอบ PTE ได้เลยนะคะ ไหนจะเวลาการทำข้อสอบที่ลดลง และจำนวนข้อที่น้อยลงอีกด้วย

แต่ด้วยความที่ข้อมูลทาง Pearson ให้มาไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่ และด้วยความเราอยากรู้มากกว่านี้ เลยคลิ๊กเข้าไปที่ลิ้งค์ VDO ของ E2Language ซึ่งเรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งใน Official partners ของ Pearson เลย เผื่อว่าเขาจะมีข้อมูลที่ละเอียดกว่าบนเว็บไซต์ในฐานะที่เขาเป็น Partner ซึ่ง E2Language ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังอีกเช่นเคย เขาอธิบายได้ละเอียดจริงๆ มาพร้อมกับภาพบรรยายประกอบที่เข้าใจง่ายจริงๆค่ะ

VDO โดย E2Language อธิบายว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปใน PTE Academic

myPTEjourney ขอสรุปออกมาเป็นตัวหนังสือตามด้านล่างนี้เลยนะคะ เผื่อว่าใครชอบอ่านมากกว่าดู VDO โดยเริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่เปลี่ยนก่อนค่ะ


สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการสอบ PTE เดิม

  1. The test will NOT get harder
    เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องดีอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ คือระดับของข้อสอบ PTE Academic จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ง่ายแบบใดก็ง่ายแบบนั้นเลย (เราต้องมองให้มันง่ายเข้าไว้)
  2. The question types will NOT change
    คือ Task ต่างๆทีเคยได้กล่าวไว้ใน ชำแหละการสอบแต่ละพาร์ท PTE มี Tasks ย่อยอะไรบ้าง จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบของ Task ในการสอบแบบเดิมเป็นอย่างไร วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ก็จะเป็นอย่างนั้น
  3. Your score requirements will NOT change
    หมายถึงข้อกำหนดคะแนนสอบจะไม่เปลี่ยนแปลง หากอธิบายเพื่อให้เข้าใจเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราจะไปเรียนต่อป.โทที่ออสเตรเลียสาขาวิศวกรรมศาสตร์ คะแนนสอบภาษาอังกฤษขั้นต่ำที่เขากำหนดไว้ว่าจะต้องได้ PTE Overall ที่ 68 ก็ยังเป็น 68 อยู่ หรือสำหรับคนที่ต้องการจะย้ายถิ่นฐานไปออสเตรเลีย จำนวน Points ที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์ของ Immigration สำหรับการสอบ PTE ก็ยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้นค่ะ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากการสอบ PTE เดิม

ส่วนต่อมาจะเป็นส่วนที่ PTE มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ตรงนี้เรามาดูกันหน่อยนะคะว่ามีอะไรบ้าง

  1. The test will become shorter
    ข้อนี่เป็นการปรับเปลี่ยนหลักของ PTE Academic เลยค่ะ โดยปกติแล้วการสอบ PTE Academic จะใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง แต่การสอบรูปแบบใหม่จะเหลือแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ข้อดีคือไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งจ้องหน้าคอมไปเกือบครึ่งค่อนวันค่ะ การสอบที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงแบบใหม่นี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป แต่ถ้าหากใครจองวันและเวลาสอบก่อนวันที่ 16 พฤศจิกายน คุณก็จะได้สอบยาวๆไปเลย 3 ชั่วโมงค่ะ ทีนี้เรามาดูกันข้างล่างว่าการสอบ PTE-A ในแต่ละพาร์ทเวลาลดลงจากเท่าไหร่เหลือเท่าไหร่กันบ้าง

    จากรูปจะเห็นได้ว่าช่วงเวลาของ Personal introduction ยังคงไว้ที่ 1 นาทีเหมือนเดิมนะคะ หากใครสนใจอยากรู้ลึกเกี่ยวกับส่วนนี้สามารถไปดูได้ที่ ต้องแนะนำตัวเองก่อนทำข้อสอบ (Personal Introduction) ได้เลยค่ะ

    ส่วนพาร์ทที่เหลือ เวลาในการทำข้อสอบก็จะลดลงทุกพาร์ทเลยนะคะ แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะเวลาในแต่ละพาร์ทที่ลดลงหมายถึงจำนวนข้อสอบในแต่พาร์ทก็ลดลงเช่นเดียวกันค่ะ ไม่อย่างนั้นคงทำข้อสอบไม่ทันเวลาแน่ๆ
  2. There will be fewer test questions
    จริงๆแล้วต้องบอกว่าข้อนี้คือข้อสำคัญที่ทำให้เวลาทั้งหมดในการทำข้อสอบ PTE Academic ลดลงนะคะ จริงอยู่ที่ Task ในข้อสอบยังมีครบถ้วนเหมือนเดิม แต่จำนวนข้อสอบในบาง Task จะลดลงไปค่ะ เอาล่ะ…มาภาวนากันดีกว่าว่าอยากให้ลดจำนวนข้อใน Task ไหนกันบ้าง ทาง E2Language ได้ทำตารางโดยรวมข้างล่างเอาไว้เพื่อเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเห็นชัดว่าการสอบ PTE 3 ชั่วโมงแต่ละ task มีกี่ข้อ (ด้านซ้านมือ) และแบบใหม่ที่เหลือ 2 ชั่วโมงแต่ละ Task จะมีกี่ข้อ (ด้านขวามือ)



    พาร์ททั้งหมดใน PTE Academic จะมีการลดจำนวน Task ลง ผู่อ่านสามารถสังเกตได้จากกล่องที่ไฮไลท์สีเขียวได้เลยค่ะว่าลดลงจากกี่ข้อเหลือกี่ข้อ
  3. The optional break between the reading and listening will be removed
    ตรงนี้เราได้เกริ่นไปคร่าวๆด้านบนแล้ว หากใครเคยสอบ PTE มาจะทราบดีว่าจะมีเวลาให้พักเบรก 10 นาทีก่อนมาทำข้อสอบในพาร์ทสุดท้ายคือ Listening เผื่อว่าใครอยากจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าให้สมองมันปลอดโปร่ง หรือไปเดินให้อากาศมันไหลเวียนเข้าไปในหัวก็ย่อมทำได้ ตรงนี้ก็แล้วแต่คนว่าต้องการพักเบรกหรือเปล่า แต่ถ้าถามเรา เรามักจะใช้เวลาเบรกทุกครั้ง
  4. The appearance of your Score Report will change
    ตรงนี้ทาง E2Lanaguage ก็ยังไม่มีรายละเอียดเท่าไหร่นะคะ แต่เอาเป็นว่ารูปแบบหน้าตาของ Score Report จะเปลี่ยนไป ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆกับการทำข้อสอบของเราค่ะ ในส่วนของ Overall score และ Skills Breakdown Score พวก Listening, Reading, Speaking, Writing ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมค่ะ แต่ส่วนที่จะไม่มีคือ Enabling Score ตรงนี้ในเว็บไซต์ของ Pearson เองก็ระบุไว้ว่ารายละเอียดจะมาในช่วงเดือนตุลาคม 2564 สำหรับใครที่ยังไม่เคยสอบแล้วสงสัยว่าแต่ละส่วนคืออะไรบ้าง สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ มาดูมาดู้มาดูว่า PTE Academic Score Report หน้าตาแบบนี้ เลยค่ะ

รูปด้านล่างนี้ myPTEjourney ได้ตัดออกมาจาก VDO ของ E2Language นะคะ เราว่าเขาทำไว้ได้เข้าใจง่ายมากๆ เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เราเอามาเทียบให้ดูอีกทีหนึ่งค่ะ

หากใครได้อ่านและพอจะเห็นภาพคร่าวๆแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงในข้อสอบ PTE Academic นั้นจะเป็นแบบใด ก็คงจะคลายความกังวลไปได้เยอะ เราขอเน้นย้ำความคิดเห็นส่วนตัวอีกครั้งว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบของ PTE Academic ในวันที่ 16พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ที่จะเข้าสอบ PTE ทุกคนแน่นอนค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *