อ่านเรื่องแล้วตอบคำถาม เป็นลักษณะรูปแบบข้อสอบที่ธรรมดาสุดๆ เราทุกคนเจอข้อสอบแบบนี้กันมาตั้งแต่อนุบาล โตขึ้นมาหน่อยจะบวกเรื่องของการวิเคราะห์เข้าไปเพื่อทดสอบว่าคนที่ทำข้อสอบเข้าใจ ‘แก่นแท้’ หรือเข้าใจ ‘จุดประสงค์’ ในเรื่องที่อ่านหรือเปล่า Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) เหมือนกับ Multiple-choice, choose single answer (Reading) ที่ต่างกันก็แค่ใน Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) ผู้เข้าสอบ PTE Academic ต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องมากกว่า 1 ข้อเท่านั้นเองค่ะ
Multiple-choice, choose multiple answers คืออะไร?
หนึ่งใน Task ของพาร์ท Reading ของการสอบ PTE Academic เพื่อวัดทักษะการอ่านของผู้เข้าสอบ หน้าจอจะปรากฏเนื้อเรื่องให้สำหรับอ่านอยู่ทางด้านซ้ายมือ เนื้อเรื่องมักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ หรือเรื่องเกี่ยวกับสังคมศาสตร์ ขนาดความยาวของเนื้อหาที่ต้องอ่านจะอยู่สูงสุดที่ 300 คำ เมื่ออ่านเนื้อเรื่องแล้ว ผู้เข้าสอบจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 2-3 ข้อ
สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Task นี้คือ มีคะแนนติดลบ (-1) หากคุณตอบผิด! แต่ myPTEjourney ไม่อยากให้ทุกคนต้องตกอกตกใจไปค่ะ ถึงอยากไรก็ตามหากคำตอบที่ผิดมีมากกว่าข้อถูกล่ะก็ คะแนน Minimum score ในข้อนี้ก็อยู่ที่ 0 คะแนนค่ะ หมายความว่าผลรวมคะแนนในแต่ละข้อของ Task นี้จะไม่มีติดลบ
Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) วัดทักษะการอ่านของผู้เข้าสอบ PTE Academic ล้วนๆ คุณไม่จำเป็นต้องฟัง หรือพูดตามสิ่งที่ได้ยิน ขอเพียงแค่อ่านเรื่องและตีโจทย์ให้แตกว่าโจทย์ต้องการทราบอะไร
จำนวนข้อสอบของ Multiple-choice, choose multiple answers มีประมาณ 2-3 ข้อ*
หมายเหตุ : หลังจากวันที่ 16 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป จะลดเหลือ 1-2 ข้อ
แต่ละส่วนที่ปรากฏบนหน้าจอคืออะไร?
1) Instruction
คือคำแนะนำว่าเราจะต้องทำอย่างไรกับข้อสอบที่เราเห็นบนหน้าจอในขณะนี้ โดยข้อสอบทุก Task ใน PTE Academic จะบอกไว้อย่างชัดเจนในทุกๆข้อ เพื่อให้ผู้เข้าสอบเข้าใจอย่างง่ายที่สุด ในเวลาที่สั้นที่สุดว่าต้องทำอย่างไร
Read the text and answer the question by selecting all the correct responses. You will need to select more than one response.
อ่านเนื้อเรื่องและตอบคำถามโดยเลือกคำตอบที่ถูกต้องทุกข้อ. คุณจะต้องเลือกคำตอบมากกว่า 1 คำตอบ.
2) The question คำถาม
คือสิ่งที่คุณต้องอ่านให้เข้าใจว่าเขาถามว่าอะไร พยายามตีคำถามให้แตก ผู้เข้าสอบ PTE จะเจอคำถามที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละข้อ ซึ่งคำถามนั้นจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในด้านซ้ายมือ
3) The reading passage บทความ
ด้านซ้ายมือบนจอคอมพิวเตอร์จะปรากฏให้ผู้เข้าสอบเห็นบทความที่เราจะต้องอ่าน บทความที่ทาง PTE คัดสรรมามักจะเกี่ยวกับเรื่องมนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ) หรือด้านสังคมศาสตร์ และอยากย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าความยาวของบทความจะยาวสุดที่ 300 คำ/บทความค่ะ
4) ตัวเลือก
ตัวเลือกจะปรากฏอยู่บนหน้าจอด้านซ้ายมือ ผู้เข้าสอบ PTE Academic จะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 2-3 คำตอบด้วยกัน โดยสามารถคลิกที่คำตอบข้อนั้นๆเพื่อเป็นการเลือกคำตอบ หากต้องการเปลี่ยนคำตอบ ทำได้โดยการกดคลิกที่ข้อที่เราไม่ต้องการอีกครั้ง แล้วจึงเลือกคำตอบอื่น
Multiple-choice, choose multiple answers ในพาร์ท Reading คือการอ่านเนื้อเรื่องเพื่อตอบคำถามทั่วไป เพียงแค่เปลี่ยนจากที่ปกติเรามักจะเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว ผู้เข้าสอบจะต้องทำการเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 2-3 ข้อก็เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ myPTEjourney อยากจะให้ผู้เข้าสอบ PTE Academic พึงระวังไว้สำหรับ Task นี้คือ
- การบริการจัดการเวลา ซึ่งสำหรับ Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) เราอยากจะแนะนำว่าควรใช้เวลา 2นาที/ข้อ ผู้เข้าสอบไม่จำเป็นต้องยึดตามเวลานี้เหมือนเราแต่จากประสบการณ์ที่ผ่านการสอบมาทั้งหมด 4 ครั้ง ทำให้เราเห็นว่า 2 นาที/ข้อ เป็นอะไรที่ลงตัวแล้วสำหรับ Task นี้ ส่วนตัวเราได้ลองดูเกณฑ์การให้คะแนนในพาร์ท Reading แล้ว และเรามองว่า Task อื่น เรามีโอกาสได้คะแนนง่ายกว่า Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) จึงทำให้เราไม่อยากเสียเวลากับ Task นี้มากเกินไปค่ะ
- เวลาในการทำข้อสอบของ PTE Academic ในพาร์ท Reading เป็นเวลารวมทั้งหมด เพราะฉะนั้นผู้เข้าสอบจะต้องกะเวลาในการทำข้อสอบแต่ละข้อในแต่ละ Task ให้ดี ว่าคุณควรจะใช้เวลากับ Task ไหนเพื่อดึงคะแนนที่ดีที่สุดมาได้ ผู้เข้าสอบสามารถดูเวลาได้ที่มุมขวาด้านบนจอ และเราก็อยากจะเน้นย้ำกับผู้เข้าสอบอีกครั้งว่าใน Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) ควรจะใช้เวลา 2นาที/ข้อ เท่านั้น
- หากตอบผิดคะแนนติดลบ! ใน Task นี้ หากคุณตอบถูก ก็จะได้คะแนนไป 1 คะแนนง่ายๆ แต่หากคุณตอบผิด ข้อนั้นคุณจะได้ติดลบ 1 (-1) มันจะมีการหักล้างคะแนนกันเกิดขึ้น แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ สมมุติคุณตอบผิดหมด (สมมุตินะคะ สมมุติเฉยๆ เรารู้ดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น) คุณก็จะได้ 0 คะแนนของข้อนี้ไป เพราะ Minimum score อยู่ที่ 0 คะแนน/ข้อ เห็นไหม…ไม่ต้องกังวลเลย (จริงอ่ะ?)
★ ทำความเข้าใจโจทย์ว่าโจทย์ต้องการอะไร นี่คือข้อที่สำคัญอีกอย่างในการทำ Task นี้ ข้อสอบลักษณะนี้ควรจะเริ่มต้นที่การอ่านโจทย์ก่อน เพราะอะไร? เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราควรหาคำตอบตรงไหน โจทย์อาจถามว่าตัวเลือกข้อใดถูก เราก็อาจจะใช้วิธีดูตัวเลือก แล้วค่อยไปหา match กับเนื้อเรื่องว่าคำตอบอยู่ตรงไหน หรือบางทีโจทย์อาจถามถึงจุดประสงค์ของผู้เขียน ถ้าเป็นแบบนี้เราก็ควรที่จะอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรทำความเข้าใจโจทย์ก่อนเป็นอย่างแรก
★ เมื่อ Identify คำตอบได้ ให้อ่าน text ส่วนนั้นอีกที คือเรารู้แล้วแหล่ะว่าคำตอบมันอยู่ตรงนี้นะ แต่อย่าลืมอ่านประโยคโดยรวมตรงส่วนนั้นอีกครั้ง บางทีจากถูกอาจกลายเป็นผิดหากไม่เห็นองค์รวมของเนื้อหาตรงส่วนนั้น การอ่านประโยครอบๆคำตอบที่เรา Identify ได้จึงมีความสำคัญเพราะมันคือภาพรวมของคำตอบ
★ ตรวจทานคำตอบ ข้อนี้เราจะเตือนให้ผู้เข้าสอบทุกคนตรวจคำตอบอีกรอบเสมอ เพราะบางครั้งการได้เห็นคำตอบของเราอีกที เราอาจะเจออะไรที่มันเข้าที่เข้าทางมากขึ้น หรือบางครั้งเราอาจจะกดปุ่มคำตอบผิดก็ได้ ทั้งๆที่ตอนแรกเรากะไว้ว่าจะกดข้อ A แต่ทำไมมือดันไปเผลอกดข้อ B ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมตรวจทานข้อสอบกันนะคะ
สิ่งต้องห้ามใน Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) หากอยากได้คะแนนดี
👎 ไม่อ่านโจทย์ สำหรับ Task นี้ หากคุณคิดจะไม่อ่านโจทย์ แล้วตรงดิ่งไปอ่านเนื้อเรื่องเลย คุณคิดผิดค่ะ คุณจะเสียเวลาในการอ่านเรื่องไปฟรีๆ เพราะสุดท้ายเมื่อคุณมาอ่านโจทย์ว่าเขาต้องการอะไร คุณก็ต้องกลับไปอ่านเนื้อเรื่องใหม่เพื่อหาสิ่งที่เขาถามอยู่ดี เกิดการอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดใหม่อีกรอบ การเข้าใจสิ่งที่โจทย์ต้องการ จะทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรก่อนหลัง ทำให้เรารู้ว่าเราควรต้องโฟกัสกับการอ่านจุดไหน
👎 จ้องหาแต่ Synonyms เพราะการมี Synonyms ปรากฏอยู่ตรงไหน ไม่ได้หมายความว่าตรงนั้นจะเป็นคำตอบ หรือเป็นคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ผู้เข้าสอบวรอ่านประโยครอบๆอีกครั้ง จะได้เข้าใจว่า Synonyms นั้นเป็นคำตอบจริงๆหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ Move on ต่อไปเลยค่ะ
👎 ใช้เวลากับ Multiple-choice, choose multiple answers (Reading) มากจนเกินไป สำหรับ Task นี้ myPTEjourney อยากจะเน้นย้ำอีกครั้ง (ถึงแม้ว่าจะย้ำมาหลายครั้งแล้ว) ว่าควรจะใช้เวลา 2 นาที/ข้อ เพียงเท่านั้น เพราะระยะเวลาในการทำพาร์ท Reading จะเป็นเวลาที่ให้รวมมาทั้งหมด ทำให้บางครั้งผู้เข้าสอบอาจจะใช้เวลาในการทำข้อสอบอย่างสนุกสนานจนลืมไปว่ายังมี Task อื่นที่เหลืออยู่
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? PTE Academic ในพาร์ท Reading ไม่ใช่แค่อ่านแล้วตอบเฉยๆ เพราะหากตอบผิดคุณจะได้ –1ไป แต่อย่างที่บอกว่าไม่ต้องเครียดจนเกินไป เนื่องจากใน Task นี้ไม่มีคะแนนติดลบ ที่สำคัญคือ myPTEjourney ก็อยากให้ผู้เข้าสอบทุกคนตั้งใจทำข้อสอบกันให้เต็มที่ ฝึกเยอะๆซ้อมเยอะๆ เอาเทคนิคที่ได้ไปมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง
สำหรับใครที่อยากเห็นข้อสอบในรูปแบบ VDO ก็ดูได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ