จั่วหัวโพสต์ได้เรียกแขกสุดๆ
เมื่อใดก็ตามที่เรามีปัญหาแต่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ ยิ่งถ้าหากต้องการแก้ให้เสร็จโดยเร็วทำให้หลายคนต้องพึ่งศูนย์บริการของเจ้าของบริการนั้นๆ เช่นเดียวกับ myPTEjourney ที่ปกติเราจะพยายามหาอ่าน FAQ’s จากเจ้าของบริการนั้นก่อน เผื่อว่ายังมีวิธีการในการแก้ไขได้ง่ายๆ ซึ่ง FAQ’s จะเป็นการรวมคำถามหรือปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่าทาง Pearson มีการบริการในส่วนนี้ด้วยและมีหลายหัวข้อแยกย้ายไปตามแต่ละประเภท เราจะมาหาข้อมูลตรงนี้ก่อนเป็นประจำและมักจะได้คำตอบอยู่เสมอ หากไม่เจอหรือยังไม่แน่ใจว่าใช้วิธีการนั้นจะได้ผลหรือไม่ ทาง Pearson ก็มีบริการให้แชทสดกับเจ้าหน้าที่เลย ไม่ใช่บอทหรือหุ่นยนตร์ตอบกลับอัตโนมัตินะคะ แต่เป็นเจ้าหน้าที่จริงๆและพวกเขาพยายามที่จะช่วยเราแก้ปัญหา
นอกจากการแชทสดแล้ว ทาง Pearson ยังมีบริการช่วยคุณแก้ปัญหาผ่านทางโทรศัพท์ให้กับผู้ที่อยากจะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อีกด้วย โดยหลังจากที่ myPTEjourney ได้รับคำแนะนำจากทางแชทกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องยื่นแบบฟอร์มปัญหาผ่านทางเว็บไซต์ แต่เป็นเราเองที่แอบมีความไม่มั่นใจว่ามันจะได้ผล ทำให้ท้ายที่สุดก็ต้องโทรหา Customer Support ของ Pearson เพื่อยืนยันความมั่นใจ
โทรไปหา Pearson Customer Support อย่างไร?
วิธีการหาข้อมูลการโทรไปยัง Pearson Customer Support หาได้ง่ายมาก หากคุณอยู่ที่หน้า pearsonpte.com (หน้า Home page (ในกรณีที่ยังไม่ได้ Log in เข้า Account ของตนเอง)) คุณเพียงแค่เลือกมาด้านล่างสุดของหน้าเว็บไซต์และคลิ๊กที่ Help Center ตามรูปได้เลย
จากนั้นหน้าต่างเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปยังหน้า Help categories ซึ่งถ้าหากคุณอยากอ่านทำความเข้าใจหรือพยายามหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน คุณสามารถหาข้อมูลได้จากหน้านี้เลยค่ะ มีหมวดแยกย่อยและคำถามแทบจะครบในทุกๆประเภท (หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะมากจากที่เราเคยเข้าเมื่อครั้งแรกๆ) แต่หากท่านใดไม่สามารถหาคำตอบตามต้องการได้ ต้องการที่โทรหาเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้คุณเลื่อนลงมาข้างล่างมาจนถึงตามรูป ให้กดไปที่ Find your local number
หน้าจอจะปรากฏ Pop up มีช่องให้เราเลือกว่าเราโทรจากประเทศไหน หากคุณประเทศไทยให้เลือกเปลี่ยนเป็น Asia Pacific Region เนื่องจากว่าไม่มีประเทศไทยอยู่ในรายการค่ะ หากคุณเปลี่ยนเป็นประเทศไทยแล้วข้อมูลเบอร์โทรของ Pearson Customer Support ก็จะเปลี่ยนไปด้วย เปลี่ยนจากเบอร์โทรของออสเตรเลียเป็น 00 852 3077 4927 โดยก่อนโทรเราก็ได้ไปเช็ค Country code มาก่อนแล้วว่าเป็นประเทศฮ่องกง เราก็โอเคแหล่ะ สบายใจไปเปราะหนึ่งเพราะพอเข้าใจสำเนียงอยู่ คุยกันรู้เรื่องแน่นอน
แต่หากใคร Log in เข้าระบบแล้ว ให้คุณไปที่ myPTEaccount จากนั้นไปที่ Help ตรงแถบด้านล่างจะมีหลายเมนูให้เลือก ให้เราไปที่ Contact และ Contact us แล้วกดที่ Contact us ตามในรูปที่ 3 ขวามือด้านล่างสำหรับการโทรได้เลยค่ะ
หลังจากกด Contact us หน้าจอจะเด้งไปยังหน้า Help categories ตามรูปแรกเพื่อให้คุณเลือกประเทศที่อยู่ของผู้โทรตามวิธีการด้านบนเลยค่ะ
ทำไมต้องโทรไป Pearson Customer Support?
เรื่องของเรื่องที่ต้องโทรไปหา Pearson Customer Support คือตามที่ได้กล่าวไว้ในย่อหน้าแรกๆว่าเกิดจากการที่เราสร้าง Account อีกอันหนึ่งขึ้นมาทับอันเดิมโดยใช้อีเมลอันเดิม พอกดสร้าง Account ใหม่ขึ้นมาโดยอีเมลที่ใช้สมัครลงทะเบียนตั้งแต่ครั้งกาลก่อน เลยทำประวัติคะแนนการสอบ PTE ของเราหายไปหมดเลย หายไปเกลี้ยงจากระบบบัญชี PTE ของเราอย่างสิ้นเชิง งานงอกอยู่ไม่สุขเลย จนต้องมาลงเอยด้วยการโทรหา Pearson Customer Support ล่ะสิ่นะ
บางคนอาจจะมีวิธีโทรหาเบอร์ต่างประเทศที่แตกต่างออกไป หรือบางคนอาจจะมีวิธีการโทรที่ค่าโทรถูกกว่าของเรา ซึ่งส่วนตัวเราโทรผ่าน Skype โดยการเติมเงินเข้าไป €5 ขั้นต่ำ การชาร์จค่าโทรก็แล้วแต่จะกำหนดกี่นาทีตามแต่ละประเทศ หากโทรไปที่ฮ่องกงเติม €5 จะโทรได้สูงสุดที่ 150 นาที แต่สำหรับเราคิดว่าโทรไปคุยเรื่องนี้นานที่สุดก็คงอยู่ที่ประมาณ 40 นาทีรวมรอสายรอระบบอัตโนมัติอะไรพวกนี้เข้าไปด้วย เติมเงินที่ €5 ผ่านบัตรเครดิตถึงแม้ว่าจะใช้โทรแค่ครั้งเดียว แต่เรามองว่ามันก็ยังคุ้มถ้าหากว่าการโทรคุยสามารถแก้ปัญหานี้ได้
เมื่อความระทึกมาเยือน
ระหว่างรอสายก็จะมีระบบอัตโนมัติคอยบอกเราว่านี่คือบลา บลา บลา ต้องคอยพนักงานเนื่องมากจากบลา บลา บลา รอไม่นานเท่าไหร่เลยค่ะ สงสัยคงมีหลายคู่สาย รอไม่น่าจะเกิน 1-2 นาทีความระทึกก็บังเกิด
.
.
.
ปลายสาย : Hello. Pearson Customer Support. How can I help you?
เรา : บอกเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นและความต้องการของว่าต้องการอะไร
ปลายสาย : Ok. What is your name?
เรา : I just created a double PTE account about an hour ago.
ปลายสาย : No. I am asking you what is your name?
เรา : Oh you are asking for my new PTE account number?
ปลายสาย : No sir. I am asking for your name.
เรา : Oh ok. My name is …
ปลายสาย : And what is your last name?
เรา : It’s …
ปลายสาย : อธิบายอะไรสักอย่างที่เราจับใจความไม่ค่อยได้
เรา : I am sorry but I cannot catch what you are saying
ปลายสาย : พยายามอธิบายอีกรอบ
เรา : Could you repeat that?
ปลายสาย : พยายามอธิบายอีกรอบอีกครั้ง
เรา : Do you mean that I need to cancel the new account myself?
ปลายสาย : No. I explained that I can see all your PTE score report history. The latest test taken was on… is it correct with your information?
เรา : Well, that’s correct. I am sorry but I could not hear you clearly. Would you mind to speak slower?
(บทสนทนาที่นำมาแบ่งปันกับผู้อ่านจะมีผิดเพี้ยนบ้างไปจากสถานการณ์จริง เนื่องจากเวลาผ่านมาประมาณเกือบเดือนค่ะ)
พอจะเห็นอะไรบ้างไหมคะ?
คือเราว่าทักษะการฟังภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนะ แต่คือเราฟังสำเนียงปลายสายไม่ออก! เค้าพูดได้เร็วและรัวมาก ร.เรือมาเยอะแยะไปหมด เราคิดว่าครูสอนภาษาไทยต้องชอบแน่ๆ ตอนที่ได้ยินสำเนียงปลายทักมาตั้งแต่ Hello เท่านั้นแหล่ะ สมองแปรผลเป็น ‘งานเข้าแล้วล่ะ’ เพราะฉันจะต้องพูดกับแขกนะจ้ะนายจ๋า
อยากให้ท่านผู้อ่านเข้าใจว่าการมีสำเนียงเป็นของตัวเอง ไม่ได้มี accent เหมือนเจ้าของภาษาไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะคะ เราจำได้แม่นเลย ตอนนั้นเราได้มีโอกาสเข้าไปฟังคอร์สอบรมของบริษัท วิทยากรวันนั้นเป็นอ.คริสที่สอนภาษาอังกฤษ (ตอนนี้เราก็ยังดูช่อง Mono29 ที่เขาชอบเอาภาษาอังกฤษในภาพยนตร์มาอธิบายให้ฟัง) เขาบอกว่าสำเนียงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ความสามารถในการสื่อสารสำคัญกว่า จากนั้นอาจารย์ลองเลียนสำเนียงคนไทยที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ โดยสมมุติว่าคนๆนี้กำลังเสนองานในที่ประชุม โดยอธิบายรายละเอียดในที่ต้องการพรีเซ้นท์ได้อย่างครบถ้วนแบบสำเนียงไทยๆ ผู้คนในห้องประชุมก็เข้าใจความหมายภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆได้เป็นอย่างดีว่าประเด็นที่กำลังพรีเซ้นต์นั้นคืออะไร ฉะนั้นการที่คุณจะมีสำเนียงเป็นของตัวเองเนื่องมาจากภาษาแม่ของคุณไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด ขอแค่คุณสามารถสื่อสารได้อย่างตรงประเด็นและอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้
กลับมาที่ตัวบทสนทนากับ PTE Customer Support จะเห็นว่า แทนที่เราจะบอกปลายสายว่าฉันไม่เข้าใจสำเนียงคุณ (เพราะเราเข้าใจเรื่องของการมีสำเนียงภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันออกไป) เราจึงเลี่ยงเป็นบอกว่าได้ยินไม่ค่อยชัดแทน เอาจริงๆนะ ปัญหาหลักคือเราฟังเขาไม่ออก! หูมันปรับไม่ทันจริงๆ แต่ด้วย ‘ความมีมารยาท’ มันรั้งเราเอาไว้ .ฮา.
เอาจริงๆเรื่องของสัญญาณก็มีส่วน สัญญาณการโทรตอนนั้นไม่ได้แย่อะไรมากนะคะ แต่ก็ไม่ได้ชัดแจ๋วเหมือนโทรภายในประเทศ ซึ่งเราคิดว่าจริงๆอันนี้ถือเป็นอุปสรรคหนึ่งที่พอบวกเรื่องสำเนียงของปลายสายเข้าไปด้วยแล้ว ทำให้การฟังและการพยายามเข้าใจปลายสายเป็นเรื่องยากขึ้นไปอี้กกก
แต่ปัญหาหลักคือเราไม่เข้าใจสำเนียงเขาน่ะ แล้วยิ่งเวลาที่เค้าพูดยาวๆรัวๆนี่ทำเราอึ้งไปเลย
ระหว่างที่อยู่ในสาย ในหัวเราคิดไปหลายเรื่องเลย ทั้งเรื่องที่สับสนว่านี่ไม่ได้เป็นศูนย์ที่อยู่ที่ฮ่องกงเหรอ? หรือว่ามีแขกมาประจำที่ศูนย์ฮ่องกง? นี่มันสุดยอดไปเลย เพราะได้บินมานั่งทำงานเป็น Call center ที่ฮ่องกงด้วย หรือเรากดเบอร์ผิด? แต่ก็ไม่นะ เพราะระบบอัตโนมัติก็แจ้งเราว่าเป็นศูนย์ของ Pearson ที่ฮาอีกคือตอนฟังปลายสายกำลังอธิบายเราได้ยินเสียงพัดลมจากทางฝั่งเข้าด้วย นึกในใจว่าในบริษัทเขาร้อนจนต้องเปิดพัดลม แสดงว่าออฟฟิศเขาแอร์คงไม่แรง
เราจำคำที่พ่อสอนไว้ได้เสมอว่า “ท้ายที่สุดแล้วปัญหามันก็จะผ่านไป” ถึงแม้ว่าเราจะแก้ไม่ได้ แต่เวลาจะเดินไปข้างหน้า และเราจะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ในที่สุด … ลึกซึ้ง
ท้ายที่สุดแล้ว การโทรไปหา Pearson Customer Support ใช้เวลาไปทั้งหมดที่ 18 นาที 19 วินาที ฮูเร่ๆ
สรุปสุดท้าย วิธีการแก้ปัญหาของการมี Double account คือต้องส่ง Request ผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ของ Pearson ซึ่งเหมือนกับตอนแรกเจ้าหน้าที่ๆเราแชทคุยด้วยเขาบอกว่าท้ายที่สุดก็ต้อง Submit form บนเว็บไซต์ และหากเราโทรไป Customer Support เขาก็จะบอกให้ทำอย่างนี้เช่นกัน และอันที่จริงการแก้ปัญหาในหัวข้อนี้มีอยู่ในหน้า FAQ’s นะคะ เพื่อนๆสามารถลองอ่านดูกันได้เผื่อว่ามีใครเผลอสร้าง Account เพิ่มแบบเราอีก
ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวขำๆที่อยากจะมาแชร์ให้กับผู้อ่านได้ทราบว่าเราผ่านมันมาได้ด้วยดี แม้ว่าระหว่างทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายสักเท่าไหร่ แต่ปลายสายของ Pearson Customer Support ก็พยายามช่วยเหลือ พร้อมทั้งอธิบายอย่างเต็มที่ว่าเราควรต้องทำอะไรบ้าง จริงๆเราคิดว่าเขาอาจจะอารมณ์เสียนิดนึงตอนที่เราขอให้เขาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเรายังตั้งตัวไม่ทัน (ไม่ให้เขาขึ้นได้ไงในเมื่อถามอย่างตอบอย่าง แล้วไหนจะให้เค้าอธิบายออยู่ 3-4 รอบ ฮา. เขาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งแหล่ะเนอะ ดีด้วยที่เรายังไม่ขึ้น คือยังงงกับสิ่งที่ได้ยินอยู่) แต่ปลายสายก็ยังพยายามอธิบายและให้บริการ ต้องขอชื่นชมสำหรับช่วยแก้ปัญหาในครั้งนี้ค่ะ