ข้อดีของการสอบ PTE อย่างหนึ่งคือ ด้วยความที่การสอบจะเป็นการทำผ่านคอมพิวเตอร์ทั้งหมด รวมไปถึงการประเมินคะแนนสอบของเราจะใช้ระบบ AI ด้วยเช่นกัน เขาจึงสามารถออกแบบแบบทดสอบเสมือนข้อสอบจริงให้เราได้ลองฝึกทำก่อนไปทำข้อสอบจริง โดยคะแนนแบบทดสอบจะผ่านการประมวลผลด้วยระบบของทาง Pearson (จากข้อมูลบนเว็บบอร์ดต่างๆ มีการกล่าวอ้างว่าระบบที่ใช้ตรวจ Scored practice test เป็นคนละตัวกับที่ใช้ตรวจข้อสอบ Official ) แล้วจะแจ้งให้เรารู้ผลแทบจะในทันที ให้เราได้ประเมินความพร้อมของตัวเองว่าถ้าไปสอบจริงเราจะทำคะแนนได้ตามที่ต้องการ หรือมีสิทธิ์ที่เอาเงินไปละลายเล่นกันแน่
เมื่อรู้ว่ามีแบบทดสอบเสมือนจริงที่ออกแบบโดยทาง Pearson อย่างเป็นทางการ มีหรือที่ myPTEjourney จะปล่อยมันไปเฉยๆ อย่างน้อยก็ควรที่จะทำให้ตัวเองชินกับกับรูปแบบการสอบในแต่ละ Task และเราสามารถฝึกการจับเวลาว่าแต่ละข้อควรใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะเรื่องเวลาในการสอบ PTE ทำหลายคนตกม้าตายมาเยอะแล้ว หากทำในส่วนที่คะแนนเยอะไม่ทันจริงๆ เตรียมนั่งกอดเข่าต้อนรับความเศร้าได้เลย เพราะคะแนนจะหายไปเยอะมาก เราเลยจัดการซื้อ Scored Practice Tests แบบ Platinum มาในราคา 79.99 USD (อ้างอิงวันที่ 15 ก.ย.2019)
รายละเอียดของแพ็กเกจ Platinum
- Sample questions and answers คือแบบฝึกหัดจากตัวอย่างข้อสอบที่ไม่ได้มีการประเมินคะแนน จะเป็นตัวอย่างให้เราลองฝึกพูดฝึกฟัง ไฟล์เสียงที่ให้เราฟังก็เป็นเสียงแบบเดียวกับที่เจอใน Scored Practice Tests และในข้อสอบจริง ส่วนตัวอย่างที่เกี่ยวกับการพูดก็จะมีสคริปต์ให้เราเป็นตัวอย่างไว้ด้วย ถือได้ว่าเป็นส่วนเสริมในแพ็กเกจที่เรามองข้ามในตอนแรก เพราะตอนนั้นคิดว่าเสียเวลาทำ เลยทำได้ไม่หมด ทำไปไม่กี่สิบข้อเอง แต่ถ้าหากใครมีเวลาเตรียมตัว เราอยากแนะนำให้ฝึกหัดทำไว้คล่องๆ เพราะมันจะช่วยจัดระบบความคิดเราว่าหากข้อสอบมาแบบนี้ เราควรต้องตอบแบบไหนได้ในทันที อีกอย่างคือแบบฝึกหัดนี้พัฒนาโดย Pearson เอง ทำให้แบบฝึกหัดคล้ายคลึงกับข้อสอบมาก
- Scored Practice Test 3 แบบ (แบบ A B และ C) ซึ่งคำถามภายในจะไม่เหมือนกัน และในส่วนนี้หล่ะที่ myPTEjourney จะเอามาโชว์ให้ทุกคนดู ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าแน่มันผลคะแนนหรือ
รูปที่เห็นด้านบนคือจำนวน Scored Practice Tests ที่ได้ซื้อและได้ลองทำดูเพื่อประเมินความพร้อมตนเอง ครั้งแรกซื้อเป็นแพ็กเกจ มี Scored Practice Tests แบบ A B และ C ส่วนวันที่ได้ทำ Scored Practice Tests A 2 ครั้งเพราะมันร้อนวิชา และมันหงุดหงิดที่ไม่ได้คะแนนดังใจเสียที จะเห็นได้ว่าเราทำแบบฝึกหัดพวกนี้ติดๆกันเลย
Scored Practice Test A วันที่ 22 ก.ย.2019
หลังจากจ่ายเงินไป 2000 กว่าบาทเรียบร้อยสบายใจ ใจมันก็ร้อนรุ่มอยากที่จะลองวิชา เอามาดูซิ Scored Practice Test ที่เขาว่ามันเหมือนกับข้อสอบจริงหนักหนา วิธีการให้คะแนนก็ใช้ระบบ AI คล้ายกัน เลยตัดสินใจเอา Test A มาทำก่อนเลย
เห็นคะแนนแล้วก็ได้แต่บอกว่าอื้อหือ ทำไมมันไม่เป็นแบบที่เราคิดเลยแฮะ ตอนนั้นจำได้ดีเลยว่าในพาร์ทพวกที่ให้พูดอธิบายเช่น Describe Image หรือ Re-tell Lecture เป็นอะไรที่พูดตะกุกตะกักมาก เพราะมันยังไม่ชิน สมองมันคิดไม่ออกว่าจะต้องพูดตรงไหนต่อ หากพูดไม่ครบองค์ประกอบหลักมันจะได้คะแนนดีไหม มือไม้นี่กวัดแกว่งไปมาแบบคนคิดคำพูดไม่ออก แต่ความคิดในหัวมันเยอะไปหมดนะเวลานั้น พอคะแนนออกก็เฟลนิดๆนะ
Scored Practice Test B วันที่ 29 ก.ย.2019
ทีนี้ลองเว้นห่างสัก 1 อาทิตย์ ให้เวลาตัวเองได้ลองฝึกให้มันคล่องๆอีกหน่อย จะได้ไม่ตื่นเต้น (นี่ขนาดแค่ลองทดสอบกับ Scored Practice Test นะ) เราก็ลองใหม่โดยเฉพาะในส่วนของพาร์ทที่ต้องพูดอธิบาย และก็ลองเขียนเรียงความในส่วนของ Write Essay ลองเขียนจริงจังเลยนะ ลองเอาของ IELTS มาเป็นแบบเลย ฝึกเขียนหลายรูปแบบ เพราะเรากลัวว่าการเขียนมันจะไปดึงคะแนนพาร์ทอื่นๆ
พอคะแนนออก…คะแนนส่วน Pronunciation เป็น 0! คะแนนรวมอยู่ที่ 47! ขอร้องอื้อหือออออให้มันดังๆ
ตอนทำแบบทดสอบนี้จำได้แม่นเลยว่าเราอยากเปรี้ยว (ไม่ใช่กลิ่นตัวนะ) คืออยากจำลองบรรยากาศการสอบของจริง ของจริงมันต้องใช้หูฟังแบบครอบหูที่มีไมโครโฟนเหมือนศูนย์สอบทั่วไป หัวสูงแต่งบน้อยเลยไปซื้อหูฟังเกมมิ่งยี่ห้ออะไรไม่รู้จาก Lazada ฟังก็ฟังไม่ค่อยชัด คะแนน Pronunciation ได้มา 0 เดาได้เลยว่าเสียงที่พูดมันคงไม่เข้าไมค์แน่ๆ พอลองมาฟังเสียงที่ออกจากไมค์หลังทำ Scored Practice Test เสร็จก็พบว่ามันไม่มีเสียงเลย ระบบมันเลยจับไม่ถูกว่าเธอพูดอะไรเนี่ย … เลยพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ไปสอบเลยดีกว่า
Scored Practice Test C วันที่ 9 พ.ย.2019
หลังจากที่ไปสอบมาครั้งแรก็ผิดหวังกับคะแนนของตัวเอง (จริงๆไม่น่าผิดหวังนะ เพราะคะแนนสอบได้มากกว่า Scored Practice Test หน่อยนึง ได้ 61/90) เหลือ Scored Practice Test C ที่ยังเก็บเอา ดีนะที่ไม่ใช้หมดไปก่อนการสอบครั้งแรก ไม่งั้นได้เสียเงินอีก 2400 กว่าบาทแน่ๆ
อั๊ยยะ! คะแนนออกมาอยู่ที่ 77! สูงสุดเป็นประวัติกาล
การทดสอบในครั้งนี้ เราได้ลงทุนเรียนกับติวเตอร์ชาวอินเดียท่านหนึ่งที่ได้ PR อยู่ออสเตรเลียไปแล้ว เราเลยเอาเทคนิคของเค้ามาปรับใช้ ขอย้ำว่านำมาปรับใช้ เราไม่เอาเทคนิคของเค้าทั้งหมดมา แต่โดยรวมแล้วเรารู้สึกว่าคะแนนจากแบบทดสอบครั้งนี้เราพึงพอใจมาก เราได้เอาคะแนนนี้ไปให้ติวเตอร์ดู เขาบอกว่าคะแนนจากข้อสอบจริงจะมากกว่าคะแนนที่เราได้จาก Scored Practice Test แน่นอน
Scored Practice Test A วันที่ 10 พ.ย.2019
ก่อนจะไปสอบจริงวันที่ 15 พ.ย. ก็อยากลองวิชากับเจ้า Scored Practice Test อีกครั้ง ตอนนี้หมดคอร์สเรียนกับติวเตอร์แล้ว หัดยืนด้วยลำแข้งและมันสมองของตนเอง พยายามจำเทคนิคที่ติวเตอร์สอนมาทั้งหมด แล้วนำมันมาประยุกต์ใช้
แต่ทำไมคะแนนที่ได้มันหดลงตอนที่หมดคอร์สกับติวเตอร์แล้วฮะ! ทำไมโลกมันไม่ยุติธรรมกับเราเสียเลย หากเราดูตรงคะแนน Enabling Skills แล้วทุกพาร์ทมันก็เยอะเหมือนๆกับ Test C ไม่ใช่หรอ?!? ไม่ได้แล้ว เราต้องลองดูอีกสักครั้งเผื่อว่าระบบมันมีอะไรผิดพลาด
Scored Practice Test A วันที่ 10 พ.ย.2019 (คนละเวลากับด้านบน)
จากที่กำลังงงงวยอยู่ ไม่รู้จะไปทางไหน ทำไมคะแนนเรามันลดลง ก็ทำแบบเดิมใช้หูฟังเหมือนตอนที่เรียนกับติวเตอร์นี่นา เลยจัด Scored Practice Test เพิ่มมาด่วนๆของเย็นวันนั้นเลย เผื่อว่ามันผิดพลาดที่ระบบ
เอิ่ม คือ คะแนนลดมาอีก 2 คะแนน นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำทุกอย่างเหมือนเดิม Scored Practice Test A ก็เคยทำมาแล้ว ดีขึ้นมาหน่อยก็ตรงที่มันมากกว่าตอนทำ Test A ครั้งแรกนู่นก็แค่นั้น จนตอนนี้ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยว่ามันเพราะอะไรกันเนี่ย คะแนนมันลดลงๆ นี่คะแนนสอบภาษษอังกฤษของฉันจะเป็นไปตามเพลงสาละวันเตี้ยลงหรอเนี่ย?
Scored Practice Test B วันที่ 13 พ.ย.2019
จะไปสอบจริงวันที่ 15 พ.ย. อยู่แล้ว แต่คะแนนจาก Scored Practice Test ที่คะแนน้อยลงจาก Test A มา 2 ครั้งก่อนยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย เลยจัด Test B มาอีกสักรอบ หลังจากพักรบไป 3 วัน เผื่อว่าสมองมันจะได้สดใสมากขึ้น แต่ถ้าหากได้คะแนนเท่าเดิมที่ 60 กว่าๆก็คงกลับตัวไม่ทันแล้วล่ะนะ เพราะจองสอบครั้งที่ 2 จะไปสอบวันที่ 15 พ.ย. 2019 นี้อยู่แล้ว
ผลออกมาเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ได้ 70 คะแนน ครั้งนี้เราตั้งใจทำ โดนเฉพาะส่วนที่ติวเตอร์บอกว่ามันคะแนนเยอะมากๆ บวกกับชักจะเซ็งๆว่าทำไมคะแนนมันตกลงมาได้ขนาดนี้ ความเซ็งเข้าแทรก เลยทำให้ความตื่นเต้นมันเลยอันตรธานหายไปหมด กลายเป็นเข้าสู่โหมดสงบนิ่งและพยายามโฟกัส Tasks ที่คะแนนเยอะ พอคะแนนออกมาได้ที่ 70 เลยทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าคะแนนจากการสอบจริงคงมากกว่านี้แน่ๆ
ทั้งหมดนี้เป็น Scored Practice Tests ที่เราจ่ายเอง มูลค่าทั้งหมดอยู่ที่เท่าไหร่จำไม่ได้ แต่ถ้าถามเราว่าเราจะซื้อมาฝึกอีกไหม ตอนนี้ยัง ‘ไม่’ เพราะ 1.ยังไม่ได้สอบเร็วๆนี้ 2.ข้อสอบแบบ A B และ C ก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเราไม่อยากทำข้อสอบซ้ำ แต่ๆๆๆหลังจากที่ทาง Pearson เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานบนเว็บไซต์ ไม่แน่ว่า Scored Practice Tests อาจจะมีอะไรเปลี่ยนไปก็ได้
ข้อดีอย่างยิ่งใน PTE Scored Practice Tests คือเราจะได้เรียนรู้การบริหารจัดการเวลา
myPTEjourney
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยไปสอบ PTE เลย เราอยากแนะนำให้ลองฝึกกับ Scored Practice Tests ดูนะคะ เราว่ามันดีมากเลยที่จะซ้อมมือให้ชินก่อนเจอข้อสอบจริง คะแนน Scored Practice Tests พอจะบอกเป็นนัยๆได้ว่าเวลาเราไปสอบจริงจะได้คะแนนเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าสภาวะในการทำ Scored Practice Tests จะไม่เหมือนของจริง เช่น ไมโครโฟน หูฟังที่ใช้ สภาพแวดล้อมที่ไม่ได้มีเสียงพูดแทรกของคนอื่นในขณะที่ทำข้อสอบพร้อมเราในห้องสอบ และความตื่นเต้นที่ไม่อาจมีเท่าตอนเรานั่งสอบจริง (รวมไปถึงการโต้เถียงกันในเว็บบอร์ดว่า AI ที่ใช้ในการให้คะแนน Scored Practice Tests เป็นคนละตัวกับข้อสอบจริง) ฉะนั้นคะแนนที่ออกมาถึงแม้ว่าจะพอเป็นตัวให้คาดคะเนได้ แต่สำหรับเราๆมองว่ามันสามารถผันผวนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเราก็ยังแนะนำให้ฝึกฝนกับ Scored Practice Tests เพื่อจะได้รู้ว่าข้อสอบของจริงที่เราจะเจอเป็นอย่างไร เรียงลำดับ Parts และแต่ละ Tasks อย่างไร เสียง Background noise ที่เราได้ยินใน Record เราจะพอรับมือกับมันได้หรือไม่ และข้อดีอย่างยิ่งใน PTE Scored Practice Tests คือเราจะได้เรียนรู้การบริหารจัดการเวลา