สอบ PTE ครั้งล่าสุดที่ออสเตรเลีย 2024

บอกตามตรงว่าไม่นึกว่าจะต้องสอบ PTE เร็วขนาดนี้ เพราะตอนแรกคาดว่าจะไปสอบหลังเรียนจบ สักประมาณเดือนนึงค่อยไปสอบ จะได้ไม่ต้องเครียด แต่เนื่องมาจากต้องต่อวีซ่านักเรียนด้วยเหตุผลที่ว่าวิชาเรียนหลักตัวสุดท้ายไม่เปิดในเทอมที่แล้ว ทำให้เราต้องมานั่งเรียนเทอมที่ 2  T^T ซึ่งก๋หมายความว่าจะเรียนจบไม่ทันก่อนวีซ่าตัวปัจจุบันจะหมดอายุ  จากจุดเล็กๆนี้ทำให้ปัญหาและค่าใช้จ่ายงอกเงยตามมาอีกมากมายเพราะไหนจะต้องเสียค่าวีซ่านักเรียนที่แพงขึ้นมากกว่าเดิม 125% บวกกับเสียเงินค่าสอบ PTE ไป 460 กว่าเหรียญเพราะเป็นหนึ่งใน requirements ที่ต้องแสดงผลสอบภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนที่มาจากประเทศไทย (จริงๆอาจจะ waive ได้ แต่เราอยากให้เคสของเราแน่นขึ้น) แล้วเรายังต้องแบ่งเวลาจากการทำ assignment มาเตรียมตัวสอบอีก 

.

แต่ก็ต้องสู้นะ มาถึงขนาดนี้แล้ว ฮึบ!

.

จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ 2 กรกฎาคม  2024 ที่ตัวเองนั่งอยู่หน้าคอมฯและใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่ๆว่าจะเลือกสอบวันที่ 17 กรกฎาคมหรือจะผลัดไปอีกอาทิตย์นึงดี เพราะเราต้องการเวลาในการทบทวนรูปแบบการสอบ PTE ที่ถึงแม้จะเคยสอบมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง  และครั้งล่าสุดก็ประสบความสำเร็จ (หากใครอยากดูคะแนนย้อนหลังของ Admin  คลิกได้ที่นี่เลยค่ะ ) แต่สอบครั้งล่าสุดนั้นก็ปี 2019 มาแล้ว ซึ่งไม่ต้องใช้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ให้มากมายก็บอกได้เลยว่าสอบครั้งล่าสุดนั้นห่างมือไปประมาณเมื่อ 5 ปีที่แล้ว! สุดท้ายก็ตัดสินใจจองวันที่ 17 กรกฎาคมเลยละกัน ผลัดไปอีกอาทิตย์นึงก็ใช่ว่าจะได้คะแนนเต็ม 90 และจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวยื่นวีซ่านักเรียนอีก เราไม่อยากให้มันฉุกละหุก และนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้สอบ PTE ที่ออสเตรเลีย!

จ่ายเงินไป 460 AUD เรียบร้อย สบายใจ

ดูจากไทม์ไลน์แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าเวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อย แล้วยังจะต้องแบ่งเวลาสำหรับเรียน, ทำการบ้าน, ทำ assignments แล้วออกไปทำงานอีก นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่ามี task แปลกๆที่เขาลือกันโผล่มาระหว่างสอบอีก แต่ตรงนี้เราไม่ได้ไปซีเรียสมากเท่าไหร่เพราะเห็นว่าเหมือนเขาเอามาลองเทสในระบบเฉยๆ เราก็ยึดหลักหัวข้อสอบหลักๆที่ยังเหมือนเดิมตามเว็บไซต์ official ของ Pearson พอจองวันสอบปุ๊บก็ทำตารางเวลาว่าในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 อาทิตย์นี้ เราควรจะต้องทวนตรงไหนฝึกตรงไหนบ้าง task ไหนให้คะแนนเยอะสุด และจุดอ่อนของเราอยู่ตรงไหน

ตาราง PTE Mark Contribution

หากดูรูปเกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์การแบ่งคะแนนแล้ว เราควรจะฝึกพาร์ทหลักๆอยู่ 4 พาร์ท ได้แก่ Repeat sentence, Write from dictation, R&W Fill in the blank, Read aloud ซึ่งก็คือพาร์ทที่อยู่ในเขตโซนสีแดง ส่วน Part อื่นๆคะแนนก็แยกย่อยตามกันมา แอบกระซิบตรงนี้เลยว่าบางพาร์ทที่คะแนน contribution น้อยอย่างในโซนสีเขียวนั้น เราให้เวลาฝึกกับแต่ละ task แค่ 30 นาทีจาก 2 อาทิตย์ ส่วน Select missing word เราลองฝึกทำแค่ประมาณ 2-3 ตัวอย่างเท่านั้น เพราะตามที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าเวลาฝึกมีน้อยงานนี้ใช้กลยุทธ์ล้วนๆ คือต้องเลือกฝึกเอา

เวลาสอบคือ 9.30-11.45 น. สถานที่สอบคือ C209 ที่ University of Southern Queensland แต่เขาแนะนำให้ไปก่อนสักประมาณ 30 นาทีเพราะว่าต้องมีการลงทะเบียน ซึ่งระบบที่นี่ก็จะแปลกๆงงๆหน่อยไม่ค่อยเหมือนที่ไทย ที่พอเวลาไปถึงปุ๊บเขาจะให้เรายื่นพาสปอร์ต สแกนนิ้ว ฯลฯ แล้วค่อยไปนั่งรอเข้าห้องสอบ แต่ที่นี่พอไปถึงมีคนกำลังลงทะเบียนอยู่ เขาให้เราเข้าไปนั่งแยกอีกห้องนึงซึ่งก็เป็นห้องติดกันแบบไม่มีประตู ถ้าจำไม่ผิดห้อวนั่วรอน่าจะเป็นแถวแนวนอน 4  และแนวลึก 4 เพราะฉะนั้นน่าจะมีคนเข้าสอบภายในนั้นประมาณ 16 คน เจ้าหน้าที่จะคอยเรียก  Next, please สำหรับคนที่มาถึงแล้วแต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้มาลงทะเบียน ถามว่ามีคิวเรียกไหม…ตอบเลยว่าไม่มี ให้เดาเองว่าใครลงทะเบียนแล้วหรือยังไม่ลง จริงๆจุดที่แตกต่างระหว่างศูนย์สอบที่ออสเตรเลียกับที่ไทยเป็นอะไรที่น่าสนใจ ในส่วนนี้ myPTEjourney จะรวบรวมและทำโพสต์อีกโพสต์แยกไว้ค่ะ

หากใครเลือกสอบที่ University of Southern Queensland ให้ตรงไปที่ the Quad แล้วมองหาตึก C Block
ศูนย์สอบ Pearson ติดกลับคาเฟ่ชั้นล่าง C Block

งงแค่ไหนก็คิดดูแล้วกันว่า พอเจ้าหน้าที่คุมสอบขาน “Next, please” มีนักเรียนต่างชาติที่ดูคล้ายๆน่าจะเป็นคนเนปาล(หรืออาจจะเป็นคนอินเดีย) ก็ตอบว่า “We all already done.” พอได้ยินดังนี้ปุ๊บ สัญชาตญาณความไม่ยอมคนก็เข้าสิงทันที 555 จากที่นั่งรอแถวหน้าสุดก็ยืนขึ้น หันหลังไปสบตาปิ๊งๆกับนักเรียนต่างชาติคนนั้น และก็พูดด้วยน้ำเสียงที่พอจะได้ยินทั้งห้องว่า “I haven’t.” พร้อมทั้งส่งยิ้มสยามสวยงามไปให้ พ่อหนุ่มคนนั้นก็ยิ้มแบบเขินๆ ถามว่าโกรธไหมก็ไม่โกรธหรอก แต่มันมีความรู้สึกว่าทำไมถึงสรุปเองเออเองว่าทุกคนลงทะเบียนกันหมดแล้ว -.- แต่มานั่งคิดๆดูเราติดว่าน่าจะเป็นเพราะมันไม่มีคิวในการลงทะเบียน เลยไม่รู้ว่าใครลงทะเบียนแล้วหรือยังไม่ได้ลงทะเบียน

ตัดภาพมาที่เราลงทะเบียนเสร็จแล้วขอเข้าไปเข้าห้องน้ำ (ระหว่างนั้นก็มีผู้สอบคนอื่นผลัดกันลงทะเบียน) เพราะยังไม่ถึงเวลาสอบ กลับเข้ามาในห้องอีกทีคือทุกคนลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ขอเช็คดูว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋ากางเกงหรือเสื้อกันหนาวไหม จากนั้นเราก็เดินเข้าไปนั่งรอในห้องรอ เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าต้องทำอย่างไรบ้างหากต้องการความช่วยเหลือ ใช้เวลาสอบนานเท่าไหร่ ฯลฯ และก็บอกว่า…เอาล่ะหากว่าคุณพร้อมสอบแล้วก็เชิญเข้าไปเลือกที่นั่งได้เลย!… ไอ้เราก็งงสิ่ มีให้เลือกที่นั่งเองได้ด้วยเว้ย … ทุกคนก็กรูกันออกจากห้องและกรูกันไปเข้าห้องสอบจับจองที่นั่ง เราก็ยืนงงๆให้สมองประเมินผลสักพัก พอนึกขึ้นได้ก็คิดได้ว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่านั่งตรงไหน เพราะจะได้คะแนนดีหรือไม่ดี มันขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมที่จะสอบและเตรียมตัวมาดีหรือเปล่า? หลักวิทยาศาสตร์ล้วนๆ (ดวงมีผลนิดหน่อย 55)

แต่…วันที่ไปสอบดันเป็นหวัด มีทั้งเสมหะและน้ำมูก …เอาเข้าไป… เนื่องจากมันเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วอากาศมันเปลี่ยน อันที่จริงไม่ใช่มีแค่เราในห้องสอบหรอกที่ฟังๆดูแล้วว่าน่าจะเป็นหวัด 😀

.

.

.

พอได้ที่นั่งสอบปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็ให้แต่ละคนรอก่อน เพราะว่าเขาจะมา Log in เข้าระบบให้ พอเข้าระบบได้ก็เริ่มทำข้อสอบ ตอนนั้นเราเริ่มได้ยินเสียงคนอื่นเริ่มพูดกันบ้างแล้ว ให้เดาว่าน่าจะเป็น task Read aloud เราก็ให้คนอื่นพูดไปก่อน ส่วนตัวเรายังนั่ง Test ไมโครโฟนกับหูฟังอยู่เลย 55 จริงๆคือไม่ใช่อะไร แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ามันเริ่มพร้อมกันแล้วต้องมานั่งทำ Task เดียวกันเสียงมันจะตีกันซะเปล่าๆ เลยให้คนอื่นนำหน้าไปก่อนเลย

ข้อสอบที่ได้มาก็ตามที่ในเว็บไซต์ของ Pearson บอกไว้ว่าจะมีอะไรบ้าง แต่ระหว่างสอบอยู่มี task แปลกๆที่เขาพูดถึงแทรกเข้ามาอยู่ 2 ข้อ คือให้เราฟังบทสนทนานักเรียน 2 คนที่เข้ามา complain กับบรรณารักษ์ในห้องสมุดของมหาลัยฯเรื่องนักเรียนคนอื่นๆเสียงดัง และมีนโยบายที่จะจัดการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ให้เราฟังบทสนทนาแล้วก็สรุปสิ่งที่เราได้ยินประมาณ 40 วินาที ส่วนอีกข้อนึงก็คล้ายกันเลยแต่เป็นบทสนทนาของนักเรียน 3 คนพูดคุยเกี่ยวกับการแบ่งเวลาเรียนอ่านหนังสือ แล้วให้เราพูดสรุปสิ่งที่ได้ยิน 40 วินาทีเช่นกัน ระหว่างนั้นก็ทำข้อสอบไปเรื่อยๆ และก็พบกับจุดหักเหอีกแล้ว คือมี task แปลกๆโผล่มาเป็นรอบที่ 2  ข้อแรกเขียนบรรยายว่าสถานการณ์คือสุนัขของเพื่อนบ้านเห่าเสียงดังรบกวน เราจะคุยกับเพื่อนบ้านอย่างไร ส่วนข้อที่ 2 คือสถานการณ์ที่เพื่อนของเราจะจัดปาร์ตี้ฉลองหลังสอบเสร็จ เราจะ text ไปคุยกับเพื่อนอย่างไร โดย 2 ข้อนี้นั้นคุณจะต้อง Response  ข้อละ 40 วินาทีว่าจะทำอย่างไร … เท่าที่ไปหาอ่านดูตามรีวิวของคนที่สอบ PTE ก็เจออะไรแปลกๆอย่างนี้เหมือนกัน ซึ่งสรุปได้ว่าเขาไม่ได้เอาไปคิดเป็นคะแนนหรือหักเวลาการสอบของเราออกไป เหมือนกับว่าเป็นการเทสระบบเฉยๆ

ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าในพาร์ท Speaking ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ยิ่ง Describe image รู้สึกว่าลิ้นมันพันกันยังไงก็ไม่รู้ จำได้เลยว่าพูดผิดระหว่าง 30,000 กับ 3,000 ตอนที่ต้องบรรยายกราฟ ส่วน Repeat sentence มีบางประโยคที่จำไม่ได้ว่าเขาพูดว่าอะไรบ้างแต่ก็ต้องทู่ซี้ไหลไปตามน้ำ ใน R&W Fill in the blank มี 2 ข้อที่เหมือนตามที่ฝึกใน YouTube เป๊ะ แต่ปัญหาคือไอสองข้อนั้นเคยผ่านตาอยู่ครั้งเดียว เลยไม่มั่นใจว่าทำถูกหรือเปล่า อันนี้มันน่าเจ็บใจนะ ในส่วนของพาร์ท Listening  มีมาหลายสำเนียงมาก สำเนียง Bristish จ๋ามาเลยก็มี บอกตรงๆว่าฟังยากแล้วดันโผล่มาใน Summarize spoken text อีก  ส่วน Write from dictation เหมือนอัดมาจากในห้องอัดซึ่งเสียงฟังชัดถึงชัดมาก เรามั่นใจว่าเราทำในส่วนนี้ได้ดี

สอบเสร็จก็ตัดสินใจไปกินซูชิมื้อเที่ยง อยากจะฉลองสักหน่อย ระหว่างนั่งๆกินอยู่ได้รับอีเมลมาว่าผลคะแนนออกแล้ว! ถือว่าเร็วมากกกกกก มีแอบนึกในใจว่าคะแนนออกเร็วขนาดนี้สงสัยคะแนนไม่ดีแน่เลย เพราะไม่ต้องใช้เวลาตรวจเยอะ 555 ใจตอนนั้นอยากจะ log in เข้าไปเช็คคะแนน แต่ปัญหาคือลืม password 555  พอกลับถึงห้องก็รีบเช็คคะแนนผลปรากฏว่า…

คะแนนสอบ PTE ครั้งล่าสุด

คะแนนที่ออกมาก็ถือว่าพอใจ (ในระดับหนึ่ง) เพราะด้วยเวลาที่เตรียมตัวน้อยและห่างสนามสอบ PTE ไปนาน แต่อีกใจก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆ เพราะหวังจะได้อย่างน้อย 79 คะแนน ในแต่ละแบนด์ แล้วคะแนนที่ออกมาคืออีกนิดเดียวขาดไปแค่ 4-5 คะแนนก็จะถึง 79 แล้ว…

.

.

.

PTE จ๋า เดี๋ยวเราได้เจอกันอีกแน่ 😉 


รูปจาก
https://www.quora.com/What-is-the-most-scoring-part-in-Pte-speaking
https://goodeducation360.com.au/university-of-southern-queensland/index.html?startscene=pano5048

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *