The Birth of Korean Cool กำเนิดกระแสเกาหลี

ชื่อหนังสือภาษาอังกฤษ    : The Birth of Korean Cool
ชื่อภาษาไทย        : กำเนิดกระแสเกาหลี
เขียน                      : Euny Hong
แปล                       : วิลาส วศินสังวร
สำนักพิมพ์             : เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง
จำนวนหน้า           : 263 หน้า
ISBN                       : 9786167691725
ภาษา                      : ไทย
ราคาปก                 : 260 บาท


ความรู้สึกหลังอ่าน

หนังสือหน้าปกสีสันสดใส พร้อมด้วยสัญลักษณ์ K-Pop อย่าง ‘กังนัมสไตล์’ ทำท่าเอกลักษณ์ยืนเด่นเป็นสง่า ให้ทุกคนที่เดินผ่านหนังสือเล่มนี้รู้ไปเลยว่าเนื้อหาภายในเกี่ยวกับประเทศเกาหลีแน่นอน และเป็นเช่นนั้นจริงๆ ‘The Birth of Korean Cool’ เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในเกาหลีก่อนที่จะคูล มีความเจริญก้าวหน้าไปเป็นประเทศที่คูลในอันดับต้นๆของเอเชีย และดังไกลไปในระดับโลก

เนื้อหาภายในเล่มเขียนโดยผู้เขียนเชื้อชาติเกาหลีที่เติบโตมาในประเทศอเมริกาแต่เด็ก ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดของผู้เป็นพ่อแม่ตอนอายุ 12 ปี เนื่องด้วยภาระการงานของครอบครัว ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผู้เขียนบรรยายจะไม่ได้เป็นภาพใหญ่ว่าเมื่อก่อนเกาหลีเป็นอย่างไร ช่วงที่เกาหลีพัฒนาขึ้นได้เนื่องมาจากอะไร ระบบการปกครองเริ่มก้าวกระโดดเมื่อตอนไหนให้เราเข้าใจเป็นสเต็ป แต่ก็ทำให้เราเห็นเกาหลีอีกมุม มุมมองที่ผ่านสายตาของเด็กวัย 12 ที่รู้สึกอยู่บ่อยครั้งว่าตัวเธอเองนั้นไม่มีอะไรเข้ากันกับเกาหลีได้เลย ผู้เขียน Euny Hong มักมีคำถามขัดแย้งในใจเสมอว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทำไมมันช่างต่างจากอเมริกา –  ดินแดนที่เธอเติบโตมาเหลือเกิน?

The Birth of Korean Cool หรือชื่อหนังสือภาษาไทยว่า ‘กำเนิดกระแสเกาหลี’ เริ่มอารัมภบทความเป็นมาของเกาหลีในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากแบบพอหอมปากหอมคอ ผ่านเส้นวิวัฒนาการทางด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ จนทำให้เกาหลี(ใต้)ที่เป็นประเทศโลกที่ 3 กลายมาเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มโลกที่ 1 ได้ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่สิบปี  ความเป็นมาต่างๆเหล่านี้ถูกหยิบยกขึ้นมาให้ผู้อ่านได้เห็นภาพผ่านเรื่องราวในด้านต่างๆที่เราเองก็นึกไม่ถึงว่า นอกจากการปั่นกระแสเค-ป๊อปให้เป็นจุดขายของเกาหลีแล้ว เรื่องเล็กๆอย่างการทำโทษในโรงเรียน เนื้อหาชาตินิยมที่สอนในสถานบันการศึกษา การกินอาหารประจำชาติอย่างกิมจิ หรือการกีดกันภาพยนตร์ต่างชาติ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลระดับโลกได้

ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการบรรยายความเป็นมาเรื่องความคูลของเกาหลีค่อนข้างที่จะสะปะสะปะไปหน่อย เหมือนเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยตรงนี้นั้นมาผสมกันเพื่อให้อยู่ในหมวดหัวเรื่องเดียวกัน หรือการเอาบทสัมภาษณ์มาใส่เพื่อให้เนื้อหาในบทนั้นๆสอดคล้องกับตัวบท เรามองว่าบางทีมันก็ไม่จำเป็น

การยกตัวอย่างเปรียบเปรยของผู้เขียนก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้อารมณ์ในการอ่านของเราสะดุด ผู้เขียนยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับศิลปะ วัฒนธรรม บุคคลในซีกโลกตะวันตกอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่รู้เพราะเราโลกแคบหรือเปล่า บางอย่างที่ยกมา เราเองก็ไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ (ถ้าไม่ดังจริง ก็ไม่รู้จัก นี่ขนาดเราเองก็ดูหนัง ฟังเพลงสากลอยู่บ่อยๆ) เลยต้องไปเสิร์ชหาใน Google รวมถึงบางครั้งบางคราเราเองก็ไม่ค่อยเข้าใจมุกของคนเขียนหรือคนสัมภาษณ์ ทำให้ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์ในเรื่องนั้นสักเท่าไหร่

อีกเรื่องคือ เรารู้สึกว่าเวลาอ่านรวมๆแล้วมันไม่ค่อยลื่นไหล ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้นฉบับเขาเขียนไม่ค่อยปะติดปะต่อ หรือเพราะผู้แปลเขาแปลไม่ลื่นหรือเปล่า คือจากประสบการ์ส่วนตัวเรื่องการแปล เราเคยเจอล่ามแปลเนื้อหางานจากภาษาหนึ่งมาเป็นภาษาไทย ซึ่งเหมือนจะอ่านรู้เรื่อง แต่พอตั้งใจอ่านแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง งงไหม? .ฮา. นี่เกือบจะยกความสามารถพอเศษให้กับล่ามแล้วนะตอนนั้น 😀 แต่น่าแปลกคือเวลาเขาเป็นล่ามแปลในที่ประชุมสดๆ เขาก็ทำหน้าที่แปลได้ดี คนฟังก็ฟังรู้เรื่องอยู่นะ ไม่รู้ทำไมพอให้เขียนอธิบายโดยการแปลจากภาษาหนึ่งมาเป็นภาษาไทย ถึงทำได้ไม่ดีเสียอย่างนั้น เอาหล่ะ…เราไม่ได้ติผู้แปลนะ เป็นข้อสันนิษฐานเฉยๆ เพราะไม่ได้อ่านต้นฉบับ

แต่หากคุณอ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้ติดตรงที่เรากล่าวไว้ตามย่อหน้าด้านบน คุณจะเห็นว่าการที่ประเทศเกาหลี(ใต้)เจริญมาได้ขนาดนี้ นั่นก็คือ วิสัยทัศน์ของผู้นำ ใครเล่าจะไปเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยนำพาประชาชนในประเทศเดินทางเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งความรู้ได้เมื่อหลายสิบปีก่อน ก็เกาหลี(ใต้)ยังไงล่ะ!  เขามองเห็นอนาคตว่าการพัฒนาทรัพยากรในประเทศอย่าง ‘คน’ ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยกันผลักดันให้เกาหลี(ใต้)เดินไปข้างหน้าได้แบบไม่เห็นฝุ่น เมื่อรากฐานของประเทศดี อะไรๆก็ดีตาม จึงไม่แปลกใจที่ชาวเกาหลีเหนือพยายามจะหนีเข้าประเทศเกาหลีใต้เพื่อชีวิตที่ตรงกันกับกับที่พวกเขามีในเกาหลีเหนือ ในมุมมองของเรา มันสังเกตได้ง่ายมากว่าประเทศไหนเจริญกว่า แค่ดูว่าคนจากประเทศไหนไหลไปประเทศไหนก็เท่านั้นแหล่ะ

คนที่เกิดมามีอิสรภาพไม่คิดหรอกว่าอิสรภาพเป็นสิ่งพิเศษ

ชินอึนฮี

ระบอบการปกครองของเกาหลีผ่านสายตาของ Euny Hong เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อมีการแก้กฎหมายเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับประเทศชาติมากขึ้น มิใช่เพราะเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในชาติเท่านั้น นอกจากนี้คุณจะเห็นว่าประเทศเกาหลี(ใต้)ก้าวกระโดดไปอีกขั้น ดึงความเจริญต่างๆเข้าสู่ประเทศได้อีกหลายเท่า เมื่อประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบประชาธิปไตย

แต่ฉันหาคำอื่นมาบรรยายคนที่แก้ไขกฎหมายเลือกตั้งเพื่อให้ตัวเองเป็นประธานาธิบดีไปชั่วชีวิตไม่ได้

Eudy Hong

รัฐบาลเกาหลีไม่ได้จมปลักอยู่กับเรื่องเก่า พวกเขามองไปข้างหน้า ถึงขนาดว่ามีการตั้งกระทรวงที่ชื่อเฟี้ยวฟ้าวสุดๆอย่าง ‘กระทรวงการสร้างอนาคต’ ฟังชื่อแล้วนึกถึงพวกสำนักงานที่มีหน้าที่พัฒนาเทคโนโลยีล้ำๆแบบในหนัง Sci-fi แต่สำหรับเกาหลี(ใต้)แล้วมันไม่ใช่แค่ในหนัง นี่คือกระทรวงที่รัฐบาลยอมทุ่มงบหลายสิบล้านเหรียญเพื่อพัฒนาชาติโดยเฉพาะ

พวกเขาพร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนประเทศเกาหลี(ใต้)ไปข้างหน้า แล้วลองหันกลับมาดูประเทศไทยสิ่ มีอะไรบ้างที่จะไปสู้กับชาวโลกได้?


หน้าที่พิมพ์ผิด

หน้า 67 ญี่ปุ่นกับเกาหลีทะเลาะกันว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้ควรจะเรียกว่า “ญี่ปุ่น-เกาลี” หรือ “เกาหลี-ญี่ปุ่น” ควรจะเป็น  ญี่ปุ่นกับเกาหลีทะเลาะกันว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้ควรจะเรียกว่า “ญี่ปุ่น-เกาหลี” หรือ “เกาหลี-ญี่ปุ่น”

หน้า 92 รัฐบาลเกาหลีพานักเรียนสิบคนกับศาสตราจารย์อีกสองคนไปเกาหลีเพื่อศึกษาปรุง และนำอาหารเกาหลีกลับมาอเมริกา ควรจะเป็น รัฐบาลเกาหลีพานักเรียนสิบคนกับศาสตราจารย์อีกสองคนไปเกาหลีเพื่อศึกษาการปรุงอาหาร? และนำอาหารเกาหลีกลับมาอเมริกา

หน้า 109 และมีฐานปฏิบัติงานอยู่ในจังหวดทางตะวันตกเฉียงใต้ของควางจู ควรจะเป็น และมีฐานปฏิบัติงานอยู่ในจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ของควางจู

******************************************

ไม่ได้พิมพ์ผิดแต่ควรจะตรวจสอบอีกครั้ง

หน้า 57 และโซลก็ละม้ายคล้ายเมืองในยุคอวกาศที่อาร์เธอร์ ซี. คลาร์กเคยจินตนาการไว้ในนิยายเรื่อง 2001 : A Space Odyssey (หน้า 10)   พิมพ์ซ้ำกัน และโซลก็ละม้ายคล้ายเมืองในยุคอวกาศที่อาร์เธอร์ ซี. คลาร์กเคยจินตนาการไว้ในนิยายเรื่อง 2001 A Space Odyssey (หน้า 11)

หน้า 77 สมาชิกทีมคุณอยู่ในตำแหน่งที่แผ่นหลังเปิดโล่งหรือเปล่า (ตรงนี้เราว่าแปลแปลกๆ) ควรจะเป็น สมาชิกทีมคุณอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีกองหนุน? ไม่มีคนระวังหลัง? อะไรทำนองนี้หรือเปล่า เหมือนแบบเราอยู่ในเกมส์การต่อสู้ แล้วไม่ระวังหลังทำนองนั้น

หน้า 250 ประเทศมีเป้าหมายใหญ่ และต้องเป็นเช่นนั้นไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ประธานาธิบดีพัคกึนฮเย… ควรจะเป็น ประเทศมีเป้าหมายใหญ่ และต้องเป็นเช่นนั้นไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่ (เว้นวรรค) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ประธานาธิบดีพัคกึนฮเย…