สอบ PTE ที่ไทย VS ที่ออสฯ เหมือนหรือต่าง?

หลังจากได้รีวิวประสบการณ์การสอบ PTE ที่ Australia เป็นครั้งแรกที่ University of Southern Queensland (UniSQ) ไปในบทความก่อนหน้า บทความนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ว่าการสอบ PTE ที่ประเทศไทย (ศูนย์สอบที่ตึกอโศก) มีความเหมือนหรือมีอะไรบ้างที่แตกต่างจากศูนย์สอบ PTE ที่ออสเตรเลีย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการสอบ PTE เหมือนกัน และมีขั้นตอนหลักๆที่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีจุดที่ต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งความเหมือนที่แตกต่างนี้อาจมีผลกระทบต่อตัวผู้เข้าสอบไม่มากก็น้อย งั้นเรามาดูกันค่ะว่าศูนย์สอบ PTE ที่อโศกกับที่ออสเตรเลียที่เราสัมผัสมามีอะไรที่เหมือนและแตกต่างกันบ้าง?

ช่วงเวลาก่อนเข้าห้องสอบ  (ลงทะเบียน)

ศูนย์สอบ PTE ที่ประเทศไทย (อโศก) ศูนย์สอบ PTE ที่ Australia (UniSQ)
มีห้องให้นั่งรอ มีห้องให้นั่งรอ
มีจำนวนที่นั่งสอบ (หากจำไม่ผิด) ประมาณ 8-10 ที่ มีจำนวนที่นั่งสอบประมาณ 14 ที่
เคาน์เตอร์ลงทะเบียนตั้งอยู่ด้านหน้า ทำให้เห็นว่าใครลงทะเบียนไปแล้วหรือถึงตาใครแล้วบ้าง ส่วนใครไปถึงเป็นคนแรกๆ ก็สามารถตรงไปที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนได้เลย เคาน์เตอร์ลงทะเบียนจะอยู่ด้านข้างของห้องนั่งรอ ถึงแม้จะเป็นกระจกใสกั้น แต่เพราะห้องนั่งรอนั้นยาวกว่าโต๊ะลงทะเบียน ทำให้คนที่นั่งด้านหน้าจะมองไม่เห็นว่าใครลงทะเบียนไปแล้วบ้าง ต้องคอยหันไปมองอยู่บ่อยๆ
มีการตรวจเช็คแว่นสายตา ไม่มีการตรวจเช็คแว่นสายตา

กระบวนการหลักๆระหว่างศูนย์สอบ PTE ทั้งที่อโศกและ University of Southern Queensland ก่อนเข้าห้องสอบถือว่าค่อนข้างคล้ายกันพอสมควร ความคิดเห็นส่วนตัวเราคิดว่าศูนย์สอบ PTE ที่อโศกค่อนข้างจัดการกระบวนการการลงทะเบียนได้ดีกว่า อาจจะด้วยว่าโต๊ะลงทะเบียนตั้งอยู่ด้านหน้าที่นั่งรอผู้เข้าสอบทุกคน ทำให้เห็นว่าใครลงทะเบียนไปแล้วบ้าง ส่วนศูนย์สอบ PTE ที่ออสเตรเลีย ด้วยความที่โต๊ะมันอยู่ด้านข้างของห้องนั่งรอ และห้องนั่งรอมีขนาดยาวกว่า ห้องนั่งรอเลยยื่นออกไปข้างหน้า ทำให้คนที่นั่งด้านหน้ามองไม่เห็นว่าใครลงทะเบียนไปแล้วบ้างหรือถึงตาใครแล้ว เลยเกิดความสับสนเล็กน้อย หากใครอยากรู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราแนะนำให้อ่าน รีวิวประสบการณ์การสอบ PTE ที่ Australia ค่ะ

ระหว่างการสอบ (ในห้องสอบ)

ศูนย์สอบ PTE ที่ประเทศไทย (อโศก) ศูนย์สอบ PTE ที่ Australia (UniSQ)
❌ ยืนรอต่อแถวเรียงลำดับหน้าห้องสอบ เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้เลือกที่นั่งสอบให้ ❌ พอเจ้าหน้าที่บอกให้เข้าห้องสอบได้ ผู้เข้าสอบสามารถเลือกที่นั่งสอบเองได้เลย
ไม่มีที่อุดหู มีที่อุดหู
หูฟังมีปุ่มปรับเสียง หูฟังไม่มีปุ่มปรับเสียง

ส่วนตัวเราคิดว่าประสบการณ์ในห้องสอบระหว่างศูนย์สอบ PTE ที่อโศกและที่ออสเตรเลียมีข้อดีและข้อที่อยากให้พัฒนาปนกันไป อย่างศูนย์สอบ PTE ที่ University of Southern Queensland เราชอบที่ผู้เข้าสอบสามารถเลือกที่นั่งเองได้ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้ไปเลือกมากอะไร เพราะไม่อยากไปเบียดเสียดแย่งที่นั่งกับผู้เข้าสอบคนอื่นๆ ทุกคนกรูแล้วไปอัดกันตรงประตูห้องสอบ และหากใครไม่ชอบเสียงคนกดคีย์บอร์ดรัวๆ ในขณะที่ต้องอยู่ในห้องเล็กๆซึ่งเสียงคีย์บอร์ดจะดังมากเป็นพิเศษ การมีที่อุดหูคือของล้ำค่า แต่ข้อเสียข้อใหญ่สำหรับเราคือการที่หูฟังไม่มีปุ่มปรับเสียง หากอยากจะเพิ่มหรือลดความดังของ Audio เราจะต้องเสียเวลายกมือเพื่อให้ผู้คุมสอบออกจากระบบและเข้าระบบให้อีกที ซึ่งมันจะทำให้เสียเวลาอย่างมาก ตรงนี้เราว่าศูนย์สอบที่อโศกใช้หูฟังได้ดีกว่าเยอะและช่วยส่งผลดีกับผู้เข้าสอบ

ออกจากห้องสอบ

ตรงนี้ไม่มีความแตกต่างอะไรกันมากเพราะเมื่อคุณสอบเสร็จแล้วคุณก็สามารถออกจากระบบและเดินออกจากห้องสอบได้เลย ที่เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างเล็กๆน้อยๆคือศูนย์สอบ PTE ที่ตึกอโศก เมื่อสอบเสร็จแล้วทุกคนก็ออกจากห้องสอบ เก็บของแล้วก็กลับบ้าน (ก็ไปสอบนิ่เนอะ จะนั่งแกร่วทำไม) ส่วนศูนย์สอบ PTE ที่ University of Southern Queensland ผู้เข้าสอบมีการทักทายก่อนกับผู้คุมสอบ ตรงนี้เราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคนที่มาสอบส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรียนที่มหาวิทยาลัย และผู้คุมสอบก็มีแค่คนเดียว ต่างจากที่ศูนย์สอบที่อโศกที่มักจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ 2 คน นอกจากนี้คนที่มาสอบที่ University of Southern Queensland ส่วนใหญ่ก็มาสอบกันเกินกว่าหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้คะแนนตามที่กำหนดเพื่อยื่นวีซ่าหลากหลายประเภทมากกว่าผู้เข้าสอบที่เมืองไทย เช่น บางคนมายื่นเพื่อนเรียนต่อป.ตรี, ฝึกงานพยาบาล, ยื่น Subclass 485 ฯลฯ ทำให้บางคนอาจจะต้องเข้าสอบหลายครั้ง เกิดความคุ้นเคยระหว่างผู้คุมสอบและผู้เข้าสอบ

จากรีวิวจะเห็นว่ากระบวนการหลักๆระหว่างศูนย์สอบ PTE ที่อโศกและที่ออสเตรเลียนั้นไม่ได้ต่างกันมาก จะมีก็แต่ข้อแตกต่างเล็กๆน้อยๆ สำหรับเราเรามองว่าหากศูนย์สอบที่อโศกมีที่อุดหูฟังให้ ส่วนศูนย์สอบที่ออสเตรเลียมีหูฟังที่สามารถปรับระดับความดังได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ใครอยากจะแชร์ประสบการณ์การสอบ PTE ที่ออสเตรเลียที่ศูนย์สอบอื่นก็สามารถติดต่อได้ที่นี่เลยค่ะ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้สอบเองด้วยที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการทำข้อสอบ PTE  myPTEjourney ขอให้ทุกคนโชคดีกับการทำข้อสอบและหวังว่าได้คะแนนตามที่หวังไว้นะคะ ✌︎︎

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *