ทาน Chocolate สักนิดก่อนเข้าห้องสอบ

ตอนสอบครั้งแรกเราได้เวลาสอบค่อนข้างเช้า ตอน 8.00น. สำหรับบางคนอาจไม่ต้องตื่นเช้า แต่คนอยู่บ้านชานเมืองแบบเราต้องตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่แยงตา กว่าจะได้นอนก็ไม่ได้นอนหัวค่ำเสียเท่าไหร่ เพราะเดินทางมาจากที่ทำงานต่างจังหวัด กว่าจะมาถึงรถก็ติดฟ้าก็มืดเสียแล้ว ไหนจะต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง ขับรถกลับบ้าน ถึงบ้านก็รีบอาบน้ำนอน ไม่ทวนหนังสืออะไรทั้งนั้นเพราะมานั่งอ่านตอนนี้ก็ไม่เข้าสมองแล้ว มีแต่จะเสียเวลานอนไปเปล่าๆ 

ก่อนที่จะสอบ PTE ครั้งแรก myPTEjourney ก็นั่งอ่านตามฟอรัมเว็บบอร์ดที่ชาวต่างชาติเขาคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้คะแนนดี มันไม่ใช่แค่ทริคในการทำข้อสอบหรือการคำนวณคะแนนโดยใช้หลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เรามองข้ามไปเช่น การเลือกเวลาสอบ การเลือกสนามสอบ ต้องนอนให้พอสมองจะได้ไม่ล้า ทีนี้เรามาเจอความเห็นหนึ่งโดยเขาบอกว่า ด้วยความที่ศูนย์สอบของเขามักจะมีแต่เวลาสอบช่วงเช้าให้เลือก ก็คือเริ่มสอบเวลา 8.00น. ตามมาตรฐานทั่วไปในสากล แล้วบ้านเขาอยู่ไกล ต้องตื่นเช้าแล้วนั่งรถสาธารณะมาสอบ – ชีวิตเขาช่างเหมือนเราเสียจริงๆ แต่ของเราบ้านไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้น ถ้ากรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรรถไม่ติดแบบนี้ ให้ขับรถส่วนตัวมาแปปเดียวก็คงถึง แต่ด้วยที่อะไรมันก็ไม่แน่นอนในกรุงเทพฯ เลยนั่งรถไฟฟ้าเอาดีกว่า เพราะเวลามันไม่คลาดเคลื่อนมากกเท่าไหร่อยู่แล้ว และถ้าหากอยากพักสายตาอยากจะหลับก็หลับได้เลยไม่ต้องเกรงใจคนขับ

กลับมาที่เรื่องของผู้ชายบ้านไกลคนนี้ ด้วยความที่เขาต้องตื่นเช้า สมองเขาก็ยังทำงานไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่ เขาเลยเลือกที่จะ ‘ทานช็อกโกแลต’ ก่อนสอบ PTE จะได้มีน้ำตาลเข้าไปในกระแสเลือด ไปปลุกสมองให้กระชุ่มกระชวยหน่อย เวลาทำข้อสอบความรู้ที่มันคั่งค้างอยู่ในหัวมันจะได้วิ่งปรู๊ดปร๊าด

“จากข้อมูลของ The University of British Columbia บอกว่ากลูโคสสามารถเพิ่มพลังงานให้กับคุณ แน่นอนว่าช่วงสอบเราจะต้องใช้พลังงานเยอะ หากว่าเราได้กินอะไรที่เป็นน้ำตาลเข้าไปหน่อยมันจะช่วยสร้างพลังงานให้กับเรา แต่อย่าลืมว่าของพวกนี้ถึงจะเรียกพลังงานมาให้ได้ มันก็จะหายไปเร็วเช่นกัน จึงเป็นเหตุที่ว่าเราไม่ควรพึ่งอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาลเพียงอย่างเดียว” 

แต่ข้อมูลบางแห่งก็บอกว่าไม่ควรทานเพราะมันอาจจะทำให้ง่วงนอนได้!

หากจะทำให้ครบสูตรอาหารเสริมพลังสมองก่อนสอบแบบคอมโบเซ็ตคือจะต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้ามาก จากบทความ BBC UK และแหล่งข้อมูลอื่นๆชี้ว่าหากเราทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ก่อนเข้าสอบจะทำให้ประสิทธิภาพในการสอบดีขึ้น เช่นอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานช้า อย่างข้าวโอ๊ตบด ขนมปังโฮลเกรน หรือมูสลี่ แล้วก็อัดพวกโปรตีนเข้าไปอย่างนม ไข่ โยเกิร์ต 

ซึ่งสำหรับเราอาหารพวกนี้ถึงจะกินรวมกันมันไม่ใช่สไตล์ ที่บ้านก็ไม่ได้กินอะไรพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เลยจัดอาหารกล่องข้าวผัดพร้อมกล้วย 1 ลูกเพื่อให้รู้สึกอิ่มที่สถานี MRT ซึ่งหากเอาตามตรง เราไม่ได้กลัวว่ากินอื่นแล้วจะง่วงเลย แต่กลัวหิวช่วงสอบแล้วจะไม่มีสมาธิ พอกินเสร็จแล้วเราก็เอามั่ง ถึงจะอิ่มแล้ว แต่สมองมันยังไม่ค่อยเปิด เลยแวะไปซื้อ Kit Kat ที่ 7-11 ก่อนถึงตึกที่จะสอบ แล้วก็รีบยัดลงท้อง จากนั้นก็เดินไปศูนย์สอบ ยิ้มอยู่ในใจว่าฉันกินช็อกโกแลตมาแล้วนะ มาลองดูซิว่าน้ำตาลจะทำให้เราได้คะแนนเต็มกับเค้าบ้างหรือเปล่า

คะแนนออกมาจากการสอบครั้งแรก ได้อยู่ที่ 61/90 ครั้งสองได้ 69/90 ครั้งที่สามได้ 68/90
(ครั้งที่ 2 ไม่ได้ทานเพราะมาถึงห้องสอบพอดีเวลาเป๊ะ)

เอาหล่ะ ตัวเลขมันก็พิสูจน์ให้เห็นๆกันอยู่ว่าช็อกโกแลตมันช่วยเราได้ไหม? และคำตอบคือ ‘ไม่’ 

จริงอยู่ที่การทานอะไรหวานๆมันช่วยให้เรากะปรี้กะเปร่าขึ้น เราเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน แต่ว่าไม่มีอาหารหรือยาวิเศษใดๆที่จะดลบันดาลให้คุณได้คะแนนสูงๆหากว่าคุณยังไม่พร้อม หากใครได้อ่าน ยกคะแนนการสอบ PTE มาให้ทุกคนได้ดูมีใครสอบบ่อยกว่าเราอีกไหม? จะเห็นว่าคะแนนเราก็วนอยู่ที่ 60 กว่าๆไปจนถึงปลายๆ คะแนนไม่ขึ้นไปมากกว่านี้เสียที กินช็อกโกแลตก็แล้ว ดื่มน้ำเยอะก็แล้ว จนมาถึงการสอบครั้งที่ 4 ที่เราสามารถทำคะแนนที่ต้องการได้ ซึ่งในครั้งนี้เราไม่ได้พึ่งช็อกโกแลตเลย เราพยายามนอนให้เต็มอิ่มเหมือนกับทุกครั้ง แต่ที่ต่างจากครั้งอื่นคือการที่เราเตรียมตัวพร้อมกว่าทุกที สงบนิ่งกว่าทุกครั้ง ครั้งนี้เราสามารถทำ Write from dictation ได้ทันเวลาและเขียนถูกเกือบทั้งหมด ส่วน Repeat sentence เราพูดเหมือนข้อสอบได้มากกว่า 90% โดย 2 ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากๆในการเก็บคะแนนสอบ เป็นพาร์ทที่ได้น้ำหนักคะแนนเยอะที่สุด

ไม่มีอาหารหรือยาวิเศษใดๆที่จะดลบันดาลให้คุณได้คะแนนสูงๆหากว่าคุณยังไม่พร้อม

myPTEjourney

จึงหมายความว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำคะแนนสอบให้ได้ดีคือ ‘ตัวคุณเอง’ หากคุณพร้อมและมั่นใจ อะไรก็ไม่เกินความสามารถเรา เราสามารถตามไปเก็บความฝันของเราได้ด้วยมือเราและความพยายามเอง ถึงมันจะใช้เวลา(แน่นอนว่าใช้เงินด้วย) แต่เราเชื่อว่าทุกคนรู้ศักยภาพของตัวเอง อย่างตัวเราๆมั่นใจว่าที่เส้นขอบรุ้งจะมีคะแนนที่เราต้องการอยู่ 

หากใครมีเคล็ดลับอะไรดีๆ สามารถแชร์กับผู้อ่านทุกคนได้เสมอนะคะ เพื่อที่ผู้อ่านท่านอื่นอาจสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพราะอย่าลืมว่า ‘ลางเนื้อชอบลางยา’ สิ่งที่คนนี้ว่าดี อาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ อย่างสำหรับบางท่านแนะนำให้ซดกระทิงแดงหรือ M150 ก่อนสอบเลย ใจคุณได้เต้นตัวเหมือนเหยียบคันเร่งแตะที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นแน่แท้ มันทำให้คุณตื่นจริงๆตื่นทุกอนูขุมขนเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเราต้องโบกมือลาวิธีนี้ไป ไม่แน่ใจว่าหัวใจอันบอบบางนี้มันจะรับไหวไหม (ฮิ้ววว) ฉะนั้นแล้วขอให้ทุกท่านพิจารณาการปรับใช้วิธีกลยุทธ์แต่ละอย่างเหมาะสมกับตัวคุณเองนะคะ

การที่เราพร้อมทั้งความรู้ ร่างกาย และจิตใจในวันสอบจะทำให้การสอบของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น